นายเกียรติศักดิ์ พระวร ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เร่งขับเคลื่อนโครงการธนาคารต้นไม้และชุมชนไม้มีค่าจนปัจจุบันมีชุมชนเข้าร่วมโครงการจำนวน 6,814 ชุมชน มีต้นไม้ขึ้นทะเบียนกว่า 12.4 ล้านต้น มีสมาชิกกว่า 120,000 คน มูลค่าต้นไม้ในโครงการกว่า 43,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการนำต้นไม้ที่ปลูกมาแปลงเป็นสินทรัพย์ เพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินและนำมาใช้เป็นหลักประกันเงินกู้กับ ธ.ก.ส. ทำให้สมาชิกในชุมชนมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากต้นไม้/ป่าไม้ ปีละ 116 ล้านบาท และเพื่อเป็นการต่อยอดการดำเนินงานให้ตอบโจทย์เป้าหมายการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ. 2065
โดย ธ.ก.ส. ได้จัดตั้งโครงการ BAAC Carbon Credit ขับเคลื่อนการซื้อ – ขายคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้อย่างเป็นทางการในประเทศไทยตามโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER)
“เรามีการซื้อ-ขายครั้งแรกไปแล้วที่ชุมชนธนาคารต้นไม้บ้านท่าลี่และบ้านแดง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 400 ตันคาร์บอน โดย ธ.ก.ส. รับซื้อในราคากึ่ง CSR ตันละ 3,000 บาท คิดเป็นเงินรวม 1.2 ล้านบาท”
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากช่วงนี้มีมิจฉาชีพที่แอบอ้างขายกิ่งพันธุ์ พร้อมบอกว่าจะรับซื้อคาร์บอนเครดิต หรือสามารถนำเข้าร่วมโครงการ BAAC Carbon Credit ขอให้ประชาชนผู้สนใจปลูกต้นไม้ระมัดระวัง เนื่องจาก ธ.ก.ส. ไม่มีนโยบายขายกิ่งพันธุ์ใดๆทั้งสิน รวมถึงไม่มีนโยบายในการคิดค่าธรรมเนียมหรือค่าใช่จ่ายใดๆในการเข้าร่วมโครงการกับ ธ.ก.ส.
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. พร้อมสนับสนุนธนาคารต้นไม้จังหวัดฉะเชิงเทราจำนวนทั้ง 9 ชุมชน ประสงค์ที่เข้าร่วมโครงการ T-VER ประกอบด้วย
”มีสมาชิกทั้งสิน 61 คน มีพื้นที่ 81 แปลงรวมพื้นที่ 1,226 ไร่ 2 งาน 75 ตารางวา มีจำนวนต้นไม้ที่เข้าร่วมโครงการ 32,155 ต้น คิดเป็นปริมาณคาร์บอนเครดิต 305.47 ตันคาร์บอนต่อปี“
สำหรับปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการยื่นเอกสาร เพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียน T-VER กับองค์การบริหาร ก๊าซเรือนกระจก พร้อมมุ่งขับเคลื่อนภารกิจการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ผ่านโครงการ BAAC Carbon Credit เตรียมขยายผลไปยังชุมชนธนาคารต้นไม้อีกกว่า 6,800 ชุมชนทั่วประเทศ หนุนการปลูกป่าเพิ่มอีกปีละ 108,000 ต้น และวางเป้าหมายสร้างปริมาณการ ซื้อ – ขายคาร์บอนเครดิตอีกกว่า 510,000 ตันคาร์บอน ภายในปี 2571
ข่าวที่เกี่ยวข้อง