"บ้านปู เน็กซ์" รุกพลังงานหมุนเวียนญี่ปุ่น ต่อยอดบริการพลังงานสะอาด

นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการลงทุนในบริษัท แอมป์ จำกัด (แอมป์ เจแปน) บริษัทในประเทศญี่ปุ่นผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงการนำออกสู่ตลาด ซึ่งดำเนินงานภายใต้บริษัท แอมป์ เอเนอร์จี จำกัด 

โดยมีกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความยั่งยืนและการลดคาร์บอนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Sustainable & Decarbonisation Infrastructure Equity Fund หรือ SDIEF) ซึ่งสนับสนุนโดยบริษัท อาราเวสต์และเอสเอ็มบีซี กรุ๊ป (Aravest and SMBC Group) ร่วมลงทุนมีมูลค่ารวม 145 ล้านเหรียญสหรัฐ  
 

ทั้งนี้ แอมป์ เจแปนก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 ได้สร้างและพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ (Solar Farm) แล้วกว่า 300 เมกะวัตต์ และกำลังพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลมเพิ่มอีก 800 เมกะวัตต์ ทั้งยังเป็นหนึ่งในบริษัทของประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ในตลาดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคธุรกิจ (Corporate PPA) และตลาดอื่นๆ ที่ไม่อยู่ภายใต้มาตรการกำหนดราคาซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบคงที่ หรือ Feed-in Tariff (FIT) 

โดยครอบคลุมทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สำหรับภาคธุรกิจ พลังงานลม และระบบกักเก็บพลังงานจากแบตเตอรี่ การร่วมลงทุนครั้งนี้ เพื่อการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม 800 เมกะวัตต์ สู่เป้าหมายกำลังผลิตของแอมป์ เจแปน เป็น 2 กิกะวัตต์ภายในทศวรรษนี้ 

“ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่บ้านปู เน็กซ์ ให้ความสำคัญและมุ่งขยายการเติบโตภายใต้กลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และเป็นหนึ่งในตลาดพลังงานหมุนเวียนระดับโลกที่ตั้งเป้าหมายให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในสัดส่วน 36 – 38% ภายในปี 2573 โดยมุ่งเพิ่มการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593"
 

สำหรับบ้านปู เน็กซ์นั้น มุ่งที่จะเป็น Net Zero Solutions Provider ในเอเชียแปซิฟิก โดยหนึ่งในกลยุทธ์คือการร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างอนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืน 

นายโรหิต นันทะ ประธานกรรมการบริหาร กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาราเวสต์-เอสเอ็มบีซี กล่าวว่า ตลาดพลังงานหมุนเวียนของญี่ปุ่นมีความยืดหยุ่นสูงและเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยมองเห็นศักยภาพของระบบ Feed-in Premium (FIP) ที่ราคาขายไฟจะปรับขึ้นลงตามสภาพอุปสงค์และอุปทาน รวมถึงศักยภาพของตลาดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคธุรกิจ