เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของงาน (job) อย่างมาก งานหลายอย่างจะหายไปและถูกทดแทนโดยเทคโนโลยีใหม่ เช่น ภายใน 10-20 ปี คนขับรถหลายล้านคนจะถูกทดแทนด้วยรถยนต์ที่ขับเองได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะถูกทด แทนด้วยหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย หากมองย้อนไปในประวัติศาสตร์จะพบว่า การเปลี่ยน แปลงทางเทคโนโลยีทุกครั้งนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของงาน เช่น ในช่วงปี ค.ศ. 1910 รถยนต์ ได้เข้ามาทดแทนรถม้า หรือในช่วงปี ค.ศ. 1980 คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้ามาทดแทนพนักงานพิมพ์ดีดและเสมียน นอกจากเทคโนโลยีใหม่จะทดแทนงานเก่าแล้ว เทคโนโลยีใหม่ยังทำให้เกิดงานใหม่ด้วย โดยงานใหม่ที่จะเกิดขึ้นเป็นงานที่มนุษย์ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้น เช่น การเกิดขึ้นของรถยนต์ทำให้เกิดคนขับรถ การเกิดขึ้นของคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดโปรแกรม- เมอร์ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแรงงานจำเป็นต้องปรับตัวและเรียนรู้ทักษะใหม่เพื่อทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่
**ความสำคัญของการเขียนโปรแกรม
ปัจจุบันมนุษย์พึ่งพาคอม พิวเตอร์อยู่ตลอดเวลา โปรแกรมคอมพิวเตอร์มีส่วนในแทบทุกกิจกรรมของมนุษย์ เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการติดต่อระหว่างบุคคล เลือกร้านอาหาร เส้นทางจราจร กรองข่าวสาร หรือกระทั่งใช้สำหรับช่วยหาคู่แต่งงาน ตัวอย่างเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนโลกในปัจจุบันและอนาคต
การเขียนโปรแกรม (programing) จึงเป็นทักษะสำคัญที่จะทำให้มนุษย์เข้าใจการทำงานของระบบเศรษฐกิจที่ถูกขับเคลื่อนด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์และข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) การเขียนโปรแกรมจะสร้างวิธีคิดแบบเป็นระบบ (systematic thinking) และที่สำคัญที่สุดการเขียนโปรแกรมเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งมนุษย์มีเพื่อนร่วมงานเป็นคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์
[caption id="attachment_187938" align="aligncenter" width="503"]
Programing Skills ทักษะจำเป็นสำหรับงานในอนาคต[/caption]
**ทุกคนสามารถเขียนโปรแกรม
ในอดีตการเขียนโปรแกรมเป็นเรื่องเฉพาะสำหรับคนที่เรียนสาขาวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ในปัจจุบันการเขียนโปรแกรมเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ โดยจะเห็นได้จากโปรแกรมเมอร์ที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น Bill Gates หรือ Mark Zuckerberg ก็ไม่ได้เรียนในสาขาวิทยาศาสตร์
ประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศมีนโยบายให้มีการสอนเขียนโปรแกรมสำหรับนักเรียนในโรงเรียนโดยเริ่มตั้งแต่ระดับประถมศึกษาตอนต้น และให้ความสำคัญของวิชาเขียนโปรแกรมเท่ากับวิชาคณิตศาสตร์ เช่น ในปี ค.ศ. 2016 รัฐบาลอเมริกันมี นโยบายวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์สำหรับทุกคน (computer science for all) โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนทุกคนเขียนโปรแกรมได้
นอกจากการเรียนการเขียนโปรแกรมสำหรับนักเรียนหรือนักศึกษาแล้ว ในหลายประเทศยังมีการอบรมการเขียนโปรแกรมแบบเข้มข้น (programing bootcamp) สำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อน การอบรมนี้จะมีความยาวประมาณ 3-6 เดือน ในแอฟริกาการอบรมแบบนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงและช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนโปรแกรมเมอร์ โดยผู้ผ่านการอบรมส่วนใหญ่สามารถเปลี่ยนอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์และได้เงินเดือนสูงขึ้น การอบรมเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มแรงงานที่จะต้องเรียนรู้ทักษะใหม่เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นได้ว่าทุกคนสามารถเขียนโปรแกรมได้ และการเขียนโปรแกรมเป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบันและอนาคต
**การเรียนคอมพิวเตอร์โดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์
ประเทศไทยยังขาดโปรแกรมเมอร์ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0 เป็นจำนวนมาก สิ่งที่ควรทำคือการส่งเสริมการเรียนการเขียนโปรแกรมในโรงเรียนอย่างจริงจัง และสนับสนุนให้มีการอบรมการเขียนโปรแกรมแบบเข้มข้นสำหรับผู้ใหญ่
อุปสรรคในการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ในประเทศกำลังพัฒนาแล้วรวมทั้งประเทศไทย คือข้อจำกัดด้าน งบประมาณสำหรับการจัดซื้อคอมพิวเตอร์และการอบรมครู เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวองค์กร Computer Science Unplugged (Csunplugged.org) ได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนคอมพิวเตอร์และเขียนโปรแกรมเบื้องต้นโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์ แต่ใช้อุปกรณ์ที่หาได้ง่าย เช่น กระดาษหรือแก้วนํ้า โดยจะเรียนผ่านกิจกรรมกลุ่มที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น แข่งกันหาวิธีเรียงแก้วนํ้าให้เร็วที่สุด หลักสูตรดังกล่าวถูกใช้ในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศ
นอกจากมีข้อดีคือใช้งบประมาณน้อยแล้ว หลักสูตรนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการเรียนคอมพิวเตอร์แบบเดิมที่ผู้เรียนมักเรียนอยู่กับหน้าจอและขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจริงๆ การเรียนแบบนี้ยังทำให้การเขียนโปรแกรมเป็นเรื่องที่จับต้องได้และง่ายต่อการเรียนการสอน หลักสูตรแบบนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์และเขียนโปรแกรมสำหรับประเทศไทย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560