สัญญาณเตือนมาไทยแน่ สต๊อกเหล็กล็อตใหญ่จากจีน

19 เม.ย. 2563 | 00:16 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ค. 2563 | 08:29 น.

คอลัมน์ : Let  Me Think
โดย      : งามตา สืบเชื้อวงค์

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นอีกโจทย์ที่ถาโถมเข้ามาซํ้าเติมอุตสาหกรรมเหล็กไทยเหล็กโลก สำหรับประเทศไทยกล่าวได้เต็มปากว่า อุตสาหกรรมเหล็กตกหลุมอากาศอยู่เนืองๆ พอราคาจะดีดตัวดีขึ้นก็มักมีอุปสรรค พอเศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัว เกิดการสร้างโรงงานใหม่ ภาคอสังหาฯคึกคัก ทำท่าว่าจะขายเหล็กได้ดีขึ้น ก็ต้องเจอกับคู่แข่งขันที่ทำให้แข่งด้วยยาก เพราะคู่ชกอย่างจีนมีรัฐบาลให้การสนับสนุนในการส่งออกเหล็กมาเป็นระยะ

จากพิษโควิด ยิ่งจู่โจมทำให้ผู้ผลิตเหล็กในประเทศต้องปรับตัวขนานใหญ่เริ่มปรับลดการผลิตลง ตามผลกระทบของอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ชะลอการผลิตลงตามกันมา เช่น การหยุดการผลิตของผู้ประกอบรถยนต์ ขณะที่งานภาคเอกชนที่เป็นโครงการใหม่ถูกชะลอเกือบทั้งหมด

นอกจากนี้จากการสำรวจของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่าอุตสาหกรรมเหล็ก ต้องกลับมากังวลถึงความเสี่ยงจากปัญหาของสต๊อกที่ล้นตลาดและความต้องการที่หดตัวลงในประเทศจีน หากระบบ โลจิสติกส์ในประเทศจีนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ผลิตเหล็กจีนจะต้องหาทางระบายสต๊อกสินค้าจำนวนมหาศาลออกมาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการส่งออกมายังประเทศไทย ยิ่งล่าสุดรัฐบาลจีนออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการส่งออก โดยประกาศเพิ่มอัตราการชดเชยภาษี 3% (เพิ่มจาก 10% เป็น 13%) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา

สัญญาณเตือนมาไทยแน่ สต๊อกเหล็กล็อตใหญ่จากจีน

ขณะที่การส่งออกเหล็กจากประเทศจีนไปทั่วโลก แม้ว่าจะมีปริมาณลดลงจาก 73.4 ล้านตันในปี 2560 ลงมาที่ 62.2 ล้านตัน ในปี 2562 แต่ยังคงพบว่าการส่งออก ของจีนมาประเทศไทยยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปริมาณ 3.1 ล้านตันในปี 2560 ขึ้นมาเป็น 3.5 ล้านตัน ในปี 2561 และ 3.7 ล้านตันในปี 2562 หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัว 20% ในช่วงเวลาดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายการส่งออกเหล็กของประเทศจีน และครั้งนี้คงหนักไม่ต่างจากเมื่อหลายปีก่อนที่รัฐบาลจีนประกาศโละเครื่องจักรเก่าเลิกผลิตเหล็กจำนวนกว่า 100 ล้านตัน จนมีปริมาณเหล็กทะลักเข้าไทยและอาเซียน มาทั้งในรูปขายเครื่องจักรเก่า และเข้ามาตั้งโรงงานผลิตเหล็กนอกประเทศจีนซึ่งรวมถึงไทยด้วย โดยใช้กลยุทธ์ราคาสู้ (ขายถูกกว่า 20-30%)

ตามข้อมูลสถิติของกรมศุลกากร พบว่า ไทยนำเข้าเหล็กชนิดต่างๆ จากจีน ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 ปริมาณ 506,963 ตัน ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 แต่พบความผิดปกติในกลุ่มสินค้าเหล็กทรงแบน (Flat steel products) ที่มีการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ โดยสินค้าบางกลุ่มมีการนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นมากถึง 379%

ต่อเรื่องนี้นายกรกฎ ผดุงจิตต์ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)กล่าวว่า จากข้อมูลของผู้นำเข้าเริ่มมีการเสนอราคาขายเหล็กจากประเทศจีนในราคาตํ่ามากอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายังส่งไม่ได้เนื่องจากติดปัญหาโลจิสติกส์ แต่ในระยะสั้น การส่งออกจากจีนจะกระจายไปทั่วโลกโดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย

ดังนั้นภาคเอกชนไทยอยากให้ภาครัฐหาแนวทางป้องกันการนำเข้าที่จะทะลักเข้ามาในอนาคต โดยมีแนวโน้มปริมาณที่เพิ่มขึ้นและมีราคาที่ตํ่ามาก เนื่องจากประเทศจีนไม่สามารถส่งออกไปสหรัฐฯได้ จากติดมาตรการ Section 232 และไม่สามารถส่งออกไปสหภาพยุโรปได้จากติดมาตรการปกป้อง(Global safeguard)

ความเคลื่อนไหวทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นสัญญาณเตือนว่าปริมาณเหล็กชนิดต่างๆ จากจีนกำลังจ่อแถวเดินสายเข้ามาไทยและอาเซียนอีกระลอก ด้วยสต๊อกเหล็กล็อตใหญ่ที่ถูกอั้นไว้ในช่วงวิกฤติโควิด-19


หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 8 ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,567 วันที่ 19 - 22 เมษายน พ.ศ. 2563

สัญญาณเตือนมาไทยแน่ สต๊อกเหล็กล็อตใหญ่จากจีน