พลังประชารัฐ สนิมเกิดแต่เนื้อในตน
**** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3580 หน้า 4 วันที่ 4-6 มิ.ย.2563 ขออนุญาตเข้าประจำการร้อยรัดตัวอักษร เมียงมองความเคลื่อนไหว ทุกเรื่องราว ทำหน้าที่แทนคุณพี่พริกกะเหรี่ยง ที่กรำศึกมายาวนานขอตัวไปพักก่อน ส่วนจะแทนเป็นการชั่วคราวหรืออย่างไร ต้องว่ากันในอนาคต ให้รู้สึกเกร็งๆ อยูในที ด้วยความเป็นผู้น้อยและท่านพี่พริกกะเหรี่ยงท่านสร้างมาตรฐานไว้สูง ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ล่วงหน้า
**** ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดี เนชั่นทีวี 22 ครบ 20 ขวบปี ยืนหยัด หยัดยืน ฝ่ากระแสคลื่นลมอันเชี่ยวกราก มาจนถึงวันที่ 1 มิ.ย.2563 ตึกเนชั่นทีวี คลาคล่ำด้วย VIP VVIP ทั้งทางการเมืองและธุรกิจ แห่อวยพรในยุคที่ต้องรักษาระยะห่าง ด้วยโควิดยังไม่ทันจางเต็มที่
**** แน่นอนการเมืองชั่วโมงนี้ร้อนขึ้นมาโดยพลัน ที่ต้องโฟกัสหนีไม่พ้น บิ้กบราเธอร์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางกระแสขับเคี่ยวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ล้างไพ่ทีมบริหารพรรคกันใหม่ ขับไสทีม 4 กุมาร ภายใต้การอำนวยการของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พ้นกรรมการไปทั้งยวง ตั้งแต่โควิดยังไม่ทันซา
**** คอการเมืองติดตามกันแบบช็อตต่อช็อต ชิงไหวชิงพริบทุกนาที ข่าวปล่อย ข่าวลวงมีออกมามากมาย กลุ่มนั้นมาแล้ว กลุ่มนี้ถอยแล้วออกมาเป็นระยะๆ เพื่อหวังให้อีกขั้วที่รวมกันหลวมๆ หวั่นไหวในท่าที กลัวตกขบวนต้องรีบกระโจน บรรดานักเมืองก็มักเป็นเช่นนี้ ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งย้อนเข้าไปในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ว่าด้วยเรื่องเสียบเรื่องถอน ในยุครุ่งเรือง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มีการปรับครม.มีเจรจาดึงพรรคฝ่ายค้านบางพรรคเสียบ พรรคฝ่ายค้านบางพรรคกลัวตกขบวน รีบแหกสัตยาบันกระโดดเข้าร่วมทันที ละม้ายคล้ายคลึงและกลยุทธ์คุ้นๆ เดิมๆ เมื่อจะมีการเปลี่ยนในพรรคพลังประชารัฐ ก็มีการปล่อยในทำนองนี้ พวก 3 มิตร กระสันในตำแหน่งไม่นึกถึงบ้านเมือง กลัวตกขบวนจึงกระโดดหนีทันที จาก 3 มิตรจึงเหลือเพียง 2 มิตร อีกหน่อยคงไม่มีมิตร
**** กลุ่ม 3 มิตร สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, สมศักดิ์ เทพสุทิน, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ว่ากันที่ 2 คนหลังที่ชิ่งหนีสมคิด ทั้งคู่อยู่ในแวดวงการเมืองมานาน แต่ขาดบารมีผู้นำเป็นได้แค่สร้างกลุ่ม ก๊วน เป็นหางเครื่องได้ แต่ไม่ถึงกับเป็นหัวหน้าวง ลองดูดีๆคนพวกนี้ไม่สามารถนำได้ด้วยตัวเอง ต้องหาหัว หาผู้นำมาโดยตลอด เรียกว่าเป็นกลุ่มคนไร้หัว จากอิงแอบสมคิด เมื่อผละจากสมคิด คราวนี้วิ่งไปซบบิ้กบราเธอร์ ถ้าวงแตกคราวหน้าจะนำลูกหาบไปหาหัวที่ไหน
**** ว่ากันเรื่องพปชร.ยาวหน่อยด้วยเหตุว่าการเปลี่ยนแปลงของพรรคแกนนำรัฐบาลนี้ มีผลไปยังรัฐบาล พูดไปทำไมมี ว่าแล้วก็ให้ “บิ้กบราเธอร์” เป็นหัวหน้าไปเถิด อะไรๆ มันจะง่าย จะเร็วขึ้น ฝ่ายกองแช่งลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ชูธงเคลื่อนไหวได้เต็มตัว ครอบพรรคทหาร สืบทอดอำนาจเข้าให้ได้เต็มเหนี่ยว ทำไปทำมา คะแนนการแก้โควิดที่ทำมาดีๆ จะมลายหายไปในพริบตา
**** ที่น่ากลัวที่สุดเขาว่าสนิมเกิดแต่เนื้อในตน ก็ในเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา ฝ่ายค้านยังวิ่งไม่เต็มกำลัง ว่าแล้วก็สร้างประเด็นขึ้นมาในพรรคแกนนำเสียเลย เข้าทางมวลชน นักศึกษา ฮึ่มๆ ฮั่มๆ ไล่รัฐบาลทุกเวลาอยู่แล้ว รอจังหวะ รอโควิดซาก็เท่านั้น ไม่น่าเชื่ออยู่ในวงราชการก็เกี่ยวพันกับการเมือง อยู่ในวงการเมืองก็ตั้งนาน แต่กลับประเมินสถานการณ์ไม่ออก ประเมินตัวเองไม่เห็น หรือแกล้งมองไม่เห็น หรืออะไรหนอที่เข้าบังตา ให้หน้ามืด
**** งานนี้ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยากที่จะปฏิเสธในการเข้าไปแก้ปัญหาความขัดแย้งในพรรคพปชร. จะบอกว่าเรื่องของพรรค ไม่เกี่ยวรัฐบาลก็ไม่ได้ ก็พรรคนี้เสนอชื่อลุงตู่เป็นนายกฯ ใครต่อใครก็ทราบดี และใครๆ ก็รู้ดี มีแต่ลุงตู่เท่านั้นที่จะเอาอยู่
**** เดินมาถึงขั้นนี้ ให้อิดหนาระอาใจกับนักการเมือง ยังเป็นการเมืองใต้กะลา นักเลือกตั้ง ผู้อาสา กลายเป็นว่าอาสาเข้ามาแย่งชิงตำแหน่ง แสวงหาอำนาจมาเป็นของตัว ของตน เพื่อใคร เห็นใจชาวบ้านกันบ้างไหม เขาเจอพิษโควิด-19 จนจะวอดวาย เจียนตายกันทั้งบางแล้ว