สมบัติผลัดกันชม
และเสือเฒ่า
แห่งวินด์ เอ็นเนอยี่
@@@ จบกันซะที มหากาพย์ภาคแรกของ วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง (WEH) การประชุมวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา จบแบบสวยงามแมนๆ ดี ...เจ๊เมาธ์ผ่านการประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทที่มีปัญหาระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 ฝ่ายตีกันมามากมาย บรรยากาศการประชุมส่วนใหญ่ดุเดือด เลือดพล่าน พร้อมวิธีการสกปรก เช่น การปิดห้องประชุม ตัดน้ำตัดไฟ หรือ ตีรวนกันในที่ประชุม จนส่งผลให้ บางครั้งประชุมไม่ได้ หรือประชุมไม่จบ แต่สำหรับการประชุมของ WEH ถ้าให้คะแนนได้... เจ๊ให้เต็ม 10 ไปเลย เพราะทุกคนเล่นตามเกมส์ เคารพกติกา ไม่สกปรก
@@@ ส่วนคนคุมเกมส์ หรือประธานในที่ประชุม “วิชัย ทองแตง” ผู้ที่ควรเข้าข้างคุณณพ เพราะคุณณพไว้ใจเชิญมานั่งประธาน WEH ก็คุมเกมส์ได้ดี๊ดี เป็นกลางมากกกก จนทำให้นึกถึงผู้เปิดประตูกรุงศรี ให้พม่าเข้าตีเมือง จนสุดท้ายผู้เปิดประตูเมือง ก็ได้รับผลตอบแทนเป็นบรรณาการยศและศักดินาอย่างสมเหตุผล ก็อย่างว่า... คนล้ม คนเสียท่า ก็ถูกตีจากเป็นธรรมดาตามสันดานคนเรา
@@@ อย่างไรก็ตาม เจ๊เมาธ์ต้องขอชม “ณพ ณรงค์เดช” ที่แสดงสปิริต แมนๆ ยอมรับคำตัดสิน และแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ฝากงานให้ “เสี่ยประเดช กิตติอิสรานนท์” แม่ทัพใหม่สานต่อ ได้ใจเจ๊เมาธ์จริงๆ ...ส่วนเรื่องคดีความที่รกรุงรัง ใครผิด-ใครถูก ได้ผลประโยชน์จากการนั่งทับขุมทรัพย์แสนล้านบาท เจ๊ไม่ตัดสิน ปล่อยให้ไปว่าความกันในศาล และให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน
@@@ มาที่เรื่องตลาดหุ้นไทยกันบ้างค่ะ ตอนนี้ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ หรือดีๆ เข้ามาต่อยอดให้ดัชนีหุ้นได้ไปต่อ ในขณะเดียวกันก็มีปัจจัยลบเข้ามารุมเร้ามากมาย ในส่วนของปัจจัยภายนอก เริ่มตั้งแต่ดัชนีหุ้นที่นักลงทุนชาวไทย และนักลงทุนทั่วโลกใช้เป็นดัชนีอ้างอิง อย่างดัชนีหุ้นสหรัฐที่เริ่มปรับตัวถอยลงมาเรื่อย ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกถูกปรับราคาลงมาจากราคา 44-46 ดอลล่าร์/บาเรล เหลือเพียงแค่ 40 ดอลล่าร์/บาเรล เท่านั้นเอง
@@@ ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศเรื่องของการชุมนุนมทางการเมืองของกลุ่ม “ประชาชนปลดแอก” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 19 กันยายน ก็กลายเป็นประเด็นหลักที่กดดัชนีหุ้นไทยเอาไว้ไม่ให้ไปไกลกว่า 1,300 จุด เพราะแม้ว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่ดูแลม็อบจะรับนโยบายเรื่อง “อดทน...และไม่ใช้ความรุนแรง” มาใช้ในการปฏิบัติงาน แต่เรื่องของมือที่สาม และการยั่วยุจากกลุ่มผู้ชุมนุมจนอาจทำให้เหตุการณ์บานปลาย ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนมีความกังวลใจอยู่ลึกๆ
@@@ คำแนะนำของเจ๊เมาธ์คือ ในช่วงสัปดาห์นี้ ถ้าไม่ลงทุนได้ก็น่าจะดี หรือถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ถ้าจะเล่นก็ต้องเล่นเก็งกำไรแบบวันต่อวัน หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องลงทุนในหุ้นที่เป็นหุ้นพื้นฐาน ที่ผ่านการพิจารณาแล้วว่า น่าสนใจและถือยาวได้จริงๆ เพราะเรื่องในอนาคตเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ โปรดจำเอาไว้ว่า “การไม่ลงทุนในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ก็คือการลงทุนอย่างหนึ่ง” นั้นเองค่ะ
@@@ ราคาหุ้นของ JMART ถูกแรงเทขายออกมาเป็นจำนวนมากหลังจากที่มีข่าวเรื่องการเพิ่มทุนจำนวนมหาศาล จำนวน 271,982,613 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ณ วันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้มีการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 906,608,710 บาท รวมไปถึงการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปคืนหนี้คงค้าง และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งการขยายธุรกิจอายุของหุ้นกู้ ไม่เกิน 20 ปี เรื่องการเพิ่มทุนในครั้งนี้ทำเอาหุ้นในกลุ่มทั้ง JMART JMT และ SIGER ถึงกับออกอาการไปต่อไม่เป็นเลยค่ะ ก็แหม...ไม่รู้จริงๆ ว่าที่ราคาหุ้นของคุณพี่ถูกไล่ขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนนี่ค่ะ ตอนนี้ก็แค่สงสัยว่าราคาหุ้นจะกลับไปอยู่ที่เลขตัวเดียวเท่านั้นหรือเปล่าค่ะ
@@@ หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM GULF BPP และ GPSC ได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ หลังจาก บล.เจพีมอร์แกน(JP Morgan) ได้ระบุในบทวิเคราะห์ว่ามีการปรับน้ำหนักการลงทุนใน BGRIM ปรับคำแนะนำใหม่เป็น “Overweight” (เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นตัวนั้นเมื่อเทียบกับน้ำหนักลงทุนปกติ) จากเดิม “Maintained” ส่วนราคาปรับราคาเป้าหมายคงเดิมที่ 60.00 บาท ในส่วน GULF ปรับคำแนะนำใหม่เป็น “Neutral” (ให้น้ำหนักการลงทุนของหุ้นเทียบเท่ากับสัดส่วนน้ำหนักถ่วงในตลาดหุ้น และคาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีกลุ่ม หรือ อัตราผลตอบแทนโดยรวม) จากเดิม “Maintained” และให้คงราคาเป้าหมายเดิมอยู่ที่ 33 บาท ด้าน BPP ปรับคำแนะนำใหม่เป็น “Neutral” จากเดิม “Maintained” และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 15.00 บาท จากเดิม 14.20 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 5.63% ขณะที่ GPSC ปรับคำแนะนำใหม่เป็น “Overweight” จากเดิม “Neutral” และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 81.00 บาท จากเดิม 66.00 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 22.73% ชอบตัวไหน....รักตัวไหนก็เริ่มมองเริ่มเก็บกันได้นะคะ แต่สำหรับเจ๊เมาธ์คงต้องขอรอดูหน้างานไปพรางๆ ก่อนหละค๊า เจ๊ไม่รีบค่ะ
@@@ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK ของ “เสี่ยตา” ราคาต่ำตมมานาน เห็นการขยับราคาแต่ละครั้ง ก็ทำให้ดีใจเหมือนถูกหวยยังไงยังงั้นเชียวนะคะ งวดนี้ WORK มาพร้อมกับข่าวที่ว่ามีดัชนีบ่งชี้การฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาในสื่อนอกบ้านและทีวี โดยทาง บล.บัวหลวง มองว่าในช่วงนี้เป็นช่วงของการเปลี่ยนเทรนด์ของเม็ดเงินโฆษณาเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นมาค่อนข้างดี แถมแนะนำว่า WORK เริ่มดูดี แต่สำหรับเจ๊เมาธ์...เจ๊ยังมองว่าอัตราการทำกำไรของ WORK ยังดูดีไม่พอ เพราะไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์บ้านเมือง หรือเรื่องเศรษฐกิจ ทำให้ WORK ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะกลับมาทำกำไรเหมือน 2-3 ปีก่อนค่ะ สถานการณ์แบบนี้งบโฆษณาเป็นงบที่จะถูกปรับลงเป็นอย่างแรกนะคะ เอาเป็นว่าถ้ากำไรกลับมาแล้วค่อยมาว่ากันค่ะ