เชื่อได้มั้ย?
“วัฒนา เมืองสุข”
ไม่คิดหนี
+++ “ผมไม่หนี จะหนีไปทำไม ไม่มีอะไรน่ากังวล ...คดีนี้เป็นเรื่องที่ตัวเองรู้ดีทุกอย่าง ว่าทำอะไรและทุกคนรู้ว่าไม่หนี องค์คณะทั้ง 9 ท่าน ก็เชื่อว่าไม่หนี ท่านให้ประกันนี่เป็นคดีแรกโทษ 50 ปี เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาถาม ขณะนี้ยังไม่ได้มีการยื่นอุทธรณ์ เพราะมีเวลา 30 วัน โดยจะรอคัดคำพิพากษา” เป็นการให้สัมภาษณ์ของ วัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สมัยรัฐบาลทักษิณ 2 จำเลยที่ 1 หลังถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาสั่งจำคุก เป็นเวลา 99 ปี จากความผิด 11 กระทง กระทงละ 9 ปี แต่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 กำหนดอัตราโทษจำคุกสูงสุด 50 ปี ในคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ศาลพิพากษา เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2563 ที่ผ่านมา
+++ คดีนี้มีจำเลยทั้งหมด 14 คน แต่ศาลสั่งลงโทษจำคุกรวม 7 คน ยกฟ้อง 7 คน คนที่ถูกสั่งคุกนอกจาก วัฒนา แล้ว ยังมีอีก 6 คน คือ จำเลยที่ 4 อภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ ตัดสินจำคุกรวม 66 ปี จากความผิด 11 กระทง กระทงละ 6 ปี ตามกฎหมาย กำหนดโทษสูงสุด 50 ปี, จำเลยที่ 5 รัตนา แซ่เฮ้ง ลูกน้องคนสนิทเสี่ยเปี๋ยง ตัดสินจำคุกรวม 20 ปี จากความผิด 5 กระทง กระทงละ 4 ปี, จำเลยที่ 6 กรองทอง วงศ์แก้ว พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง จำคุก 44 ปี จากความผิด 11 กระทงๆ ละ 4 ปี, จำเลยที่ 7 รุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงาน บจก.เพรซิเดนท์ฯ ตัดสินโทษจำคุก 32 ปี จากความผิด 8 กระทง กระทงละ 4 ปี และ จำเลยที่ 10 อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย มีความผิดกระทงเดียว คุก 4 ปี และให้นับโทษต่อจากศาลจังหวัดพัทยา
+++ นอกจากนี้ศาลยังสั่งให้ริบทรัพย์สินที่เกิดจากการกระทำผิด ในส่วนของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 จำเลยที่ 6 และ จำเลยที่ 8 รวม 1,323 ล้านบาท จำเลยที่ 5 จำนวน 763 ล้านบาท จำเลยที่ 7 จำนวน 1,056 ล้านบาท และจำเลยที่ 10 จำนวน 40 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 3,182 ล้านบาท โดยจะต้องชำระภายใน 30 วัน หากไม่เป็นตามนี้จะต้องถูกคิดดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี
+++ ภายหลัง “ศาลฎีกานักการเมือง” มีคำพิพากษาออกมา ทราบว่า แก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ถึงกับ “เฮลั่น” เพราะ แก้วสรร ถือเป็น “พยานปากเอก” และเป็นหนึ่งในกรรมการในคณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช. ในคณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการ และ ป.ป.ช. ในคดีนี้ และได้ให้การต่อศาลมัดจำเลยในคดีนี้
+++ แก้วสรร เคยเบิกความพฤติการณ์ของคดีนี้สรุปได้ว่า คตส. ไต่สวนกลุ่มเอกชนอย่างน้อย 11 ราย ที่เป็นรายใหญ่ ในการได้โควตาบ้านเอื้ออาทรจากการเคหะแห่งชาติ โดยมี 8 ราย ให้การยอมรับว่า มีการจ่ายเงินเพื่อเป็นสินบนแก่นายอภิชาติ เพื่อให้ได้งาน ทำให้ คตส.กันกลุ่มเอกชนเหล่านี้ไว้เป็นพยาน ส่วนอีก 3 ราย ให้การว่าไม่ได้เป็นเงินสินบน แต่เป็นเงินค่าที่ปรึกษาต่าง ๆ คตส. พิจารณาแล้วเห็นว่า เหตุผลที่แก้ต่างไม่น่าเชื่อถือจึงมีความเห็นกล่าวหาว่าร่วมทุจริตด้วย และส่งสำนวนให้กับ ป.ป.ช.
+++ แก้วสรร ยังระบุเส้นทางการเงินของกลุ่มเอกชนต่าง ๆ ที่อ้างว่า มีการไหลมาสู่ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร (จำเลยที่ 4) และบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด (จำเลยที่ 8 ปัจจุบันล้มละลายแล้ว) ว่า เส้นทางการเงินคดีนี้รวมประมาณ 1.4 พันล้านบาท จากกลุ่มเอกชน 11 รายข้างต้น พบว่ามีการไหลไปสู่บัญชีเงินฝากคนใกล้ชิด หรือเป็นลูกน้องของนายอภิชาติ เช่น น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา เป็นต้น หลังจากนั้นไหลต่อไปยังสถานที่หนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่า คือร้านก๋วยเตี๋ยว กระทั่งเงินจากร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ ไหลออกไปนอกประเทศ และเวียนกลับเข้ามาสู่งบการเงินของบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด โดยอ้างว่าเป็นรายได้จากการขายข้าว แม้ตอนตรวจสอบในชั้น คตส. ไม่พบว่ามีเส้นทางการเงินไปถึง วัฒนา กับพวก แต่มีการส่งสำนวนให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อไต่สวนต่อ และปัจจุบัน ปปง.มีการอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ และมีการฟ้องคดีทางแพ่งแก่ศาลไปแล้ว
+++ จำเลย 7 คนในคดีนี้ที่ถูกสั่งจำคุก ยังมีสิทธิ์อุทธรณ์คดีได้ภายใน 30 วัน และคงใช้เวลาอีกพักใหญ่ที่ศาลจะมีคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ออกมา คดีนี้มี 2 คน คือ วัฒนา และ เสี่ยเปี๋ยง ที่ต้องจำคุก 50 ปี ในรายของเสี๋ยงเปี๋ยง ปัจจุบันถูกจำคุกอยู่ ส่วน วัฒนา ไม่รู้จะเชื่อคำพูดได้หรือไม่ ที่บอกว่า “ไม่หนี” เมื่อถึงวันที่ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์นั่นแหละ ถึงจะรู้ว่า “หนี-ไม่หนี”