+++ 14 ตุลาฯ 2563 เวลา 14.00 น. เป็นอีกครั้งหนึ่งที่จะมีการชุมนุมทางการเมือง ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นำโดย อานนท์ นำภา นำแกนนำคณะราษฎร จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง, ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ ฟอร์ด, ภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์, ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ หรือ มิน แกนนำกลุ่มนักเรียนเลว และ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน
+++ แกนนำผู้ชุมนุมได้ตั้งข้อเรียกร้องในครั้งนี้ 3 ข้อ คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรี 2.เปิดประชุมวิสามัญทันที เพื่อรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากประชาชน และ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์กลับมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
+++ อานนท์ นำภา บอกว่า จะมีการจัดกิจกรรมทวงคืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งที่ผ่านมามีการนำต้นไม้ไปกีดขวาง โดยจะนำต้นไม้ออกจากพื้นที่ จากนั้นจะเป็นการชุมนุมปราศรัย พร้อมพักค้างคืน อีกทั้งจะมีการยื่นข้อเสนอ 3 ข้อถึงรัฐบาล
+++ อานนท์ บอกว่า ยุทธวิธีในกดดันรัฐบาล เปรียบเสมือนเราจะกินข้าวทีละคำ พร้อมคาดว่าจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมจะไม่น้อยกว่า 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีพี่น้องจากต่างจังหวัดเตรียมเหมารถเข้ามา ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดว่าจะชุมนุมกี่วันและเคลื่อนที่ไปที่ใดหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับจำนวนคนและสถานการณ์
+++ ก่อนหน้านั้น อานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ให้สัมภาษณ์ว่า การชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.จะเป็นวันที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ และจะเป็นลักษณะของการประท้วง กดดัน ขยับเพดานการเรียกร้อง ไม่ใช่การแสดงพลังแล้วกลับบ้านอย่างเดียว แต่เป็นการสู้แบบ “ม้วนเดียวจบ”
+++ เมื่อถูกถามว่าการต่อสู้แบบ “ม้วนเดียวจบ” คืออะไร อานนท์ อธิบายว่า ม้วนเดียวไม่ได้หมายความว่าจะจบในวันเดียว แต่เป็นการเริ่มต้นการขยายการต่อสู้แบบต่อเนื่องและ “ม้วนเดียวจบ” แต่ถ้าคนออกมาเป็น “ล้าน” ก็จบในวันเดียว ซึ่งจะยืดเยื้อแค่ไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์
+++ จริงหรือ? ที่ว่า “ม้วนเดียวจบ” ดูๆ สถานการณ์แล้ว ยังไม่เห็นมี “ปัจจัย” อะไร ที่จะนำไปสู่การปฎิบัติตามข้อเรียกร้องให้บรรลุผลได้
+++ การชุมนุมหากขาด “ประเด็นร่วม” จากคนส่วนใหญ่ของสังคม “ยาก” ที่จะนำไปสู่การประสบผลสำเร็จได้ แถมไปแตะต้อง “สถาบัน” ด้วยยิ่งแล้วใหญ่ คนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ...ที่ว่า “ม้วนเดียวจบ” คงไปได้ยาก จริงไม่จริง ก็รอดูกันไป...