>> คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0.00-0.25% และได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในปี 2021 และ 2022 สู่ระดับ 6.5% และ 3.3% ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน คงซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ วงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์ และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) วงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์
ผลการประชุมของ FOMC ครั้งนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทสหรัฐฯ ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง จนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งทะยานทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ด้วยการปิดเหนือ 33,000 จุดเป็นครั้งแรก
น่าสนใจว่า !!! อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ยังคงที่ ปริมาณเงินอัดฉีดเข้าระบบ (QE) คงที่ และตัวเลขการประมาณการณ์การการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถูกปรับเพิ่มขึ้น จะส่งผลกับตลาดหุ้นไทยอย่างไร...
แน่นอนว่า ระยะสั้นเป็นผลในเชิงบวกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในระยะกลางและยาว...ถ้าหากเศรษฐกิจของไทยยังฟื้นตัวไม่ทัน อานิสงส์เหล่านี้ จะไหลไปหาประเทศที่มีความพร้อมมากกว่า เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่ขัดแข้งขัดขากันอยู่เลยนะคะ อะไรที่ทำให้บ้านเมืองเจริญได้ก็ทำเถอะค่ะ
>> JKN ของ “แม่แอน-ข้ามเพศพันล้าน” หรือ “จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” หลังจากมีข่าวเข้าร่วมทุนธุรกิจกัญชงกับ DOD รวมไปถึงข่าวการเช่าช่องทีวี NEW18 เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อนำคอนเทนต์ดาวเทียม JKN TV ทั้งข่าว สารคดี และซีรีส์ละครอินเดีย ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ราคาหุ้น JKN ขยับขึ้นมาจนต้องร้องขอชีวิต แล้วก็มีเรื่องดราม่าที่ “แอน-ข้ามเพศพันล้าน” ได้ออกมาโพสข้อความเชียร์หุ้นตัวเองร้อนถึงก.ล.ต.ต้องขอให้ “แอน” ชี้แจงกรณีดังกล่าว
ถึงแม้การชี้แจง จบลงด้วยดีแบบไม่มีอะไรเสียหาย แต่ความสงสัยเรื่องช่องทีวี NEW18 ยังเป็นเรื่องที่ค้างคาใจของหลายคน เพราะก่อนหน้าที่จะมีความชัดเจน JKN จะเช่าช่องทีวี NEW 18 เป็นเวลา 2 เดือน
ข่าวที่ออกมา ไม่ใช่เรื่องการเช่า...แต่เป็น JKN จะเข้าไปซื้อช่องทีวี NEW18 และคนที่ออกมาแง้มข่าวเรื่องของ NEW18 คนแรกก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น “แอน” นั่นเอง ที่เปิดออกมาในโพส “กัญชง+18= โคตรรวย” ของตัวเธอเอง...ไม่รู้ว่านั่นจะเป็นการชี้นำตลาดหรือเปล่า เจ๊เมาธ์ก็อดสงสัย แล้วก็อดที่จะตั้งคำถามไม่ได้ก็แค่นั้นคร้า
แล้วเรตติ้ง ล่าสุดของช่อง 18 อยู่บ๊วยตํ่ากว่าช่อง 5 หลังจาก JKN เข้ามา เจ๊เมาธ์ ไม่เข้าใจจริงๆ ค่ะว่า จะซื้อทำไมเหมือนกัน ...สำคัญที่สุด ตรงที่ แหล่งข่าวจากช่อง 18 และแบงก์กรุงเทพ บอกมา ไม่มีการตกลงใดๆ เรื่องการขาย สรุปคือ “ออกข่าวปั่นหุ้น” เท่านั้นเองค่ะ ก.ล.ต.เจ้าขา แล้วเรตติ้ง ล่าสุดของช่อง 18 อยู่บ๊วยตํ่ากว่า
>> เรื่องการทำธุรกิจจากพืช “กัญชงกัญชา” ซึ่งเป็นกระแสฮิตติดเทรนด์ของตลาดฯ ในปัจจุบัน ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) ถือเป็น 1 ในบริษัทที่โดดเด่น เพราะช่วงนี้ หลายบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดฯ มักจะเลือกจับมือทำบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น (MOU) กับทาง DOD ไม่ว่าจะเป็น JKN, KISS, BEAUTY หรือแม้แต่ CHAYO
ทั้งนี้เพราะ DOD เป็นบริษัทผู้รับจ้างผลิต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า หรือที่เรียกกัน OEM ที่เริ่มต้นในการทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชงก่อนใคร เริ่มจาก DOD ร่วมเป็นหนึ่งในผู้รับซื้อกัญชง ในโครงการรับสมัครผู้ปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์ ของทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีเครือข่ายเกษตรผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตเพาะปลูกกัญชงเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน DOD อยู่ในขั้นตอนการเตรียมยื่นขอใบอนุญาตตั้งโรงงานสกัดสาร CBD จากกัญชง ซึ่งถ้าได้รับอนุญาต ก็หมายความว่า DOD จะสามารถผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของพันธมิตรที่ได้ลงนามกันเอาไว้ โดยที่พันธมิตรที่ว่าไม่ต้องทำอะไรเลย...นอกจากรอเอาสินค้าไปขายเท่านั้น จึงเป็นสาเหตุทำไมเนื้อหอม...ใครๆ ก็วิ่งเข้าหา DOD ยังไงหละค่ะ ส่วนเรื่องราคาหุ้นของ DOD เอาไว้รอให้หลุดแคชฯ วันที่ 19 แล้วเราค่อยมาคุยกันค่ะ
>> KWM หลุดจากคุกการเงินเมื่อ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา...อย่างที่เจ๊เคยเล่าไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า KWM วางโครงการธุรกิจจากพืชกัญชงกัญชาตั้งแต่ต้นนํ้าถึงปลายนํ้า โดยมีพันธมิตรอย่าง บริษัท เอ็น. อี. แฮมพ์ (N.E. Hanp) ซึ่งเป็นผู้ผลิต จำหน่าย และนำเข้าวัตถุดิบเมล็ดกัญชง ของ “เสี่ยชูวิทย์ ณ NER”, บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JSP Pharma ผู้ผลิตยาทั้งแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ รวมถึงตัวของ KWM ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องสกัดสารจากพืชกัญชาและหรือกัญชงด้วยระบบที่ได้มาตรฐาน ดังนั้น หลังจากการหลุดแคชฯ รอบนี้ ต้องมาดูกันว่าราคาหุ้นของ KWM จะไปได้อีกไกลแค่ไหน ส่วนทางตัวเจ๊เอง เชื่อว่าไปได้อีกไกลแน่นอนเจ้าค่ะ
>>การขยับราคาขึ้นมา แบบก้าวกระโดดของ “หุ้นมหาชนตัวจริง” อย่าง OR กลายเป็นข้อสงสัยในตลาดว่า หุ้นพื้นฐานที่แท้จริงกับราคาหุ้นหน้ากระดานยังสวนทางกัน ตัวนี้มีอะไรดีกันแน่…ถ้ามองกันด้วยพื้นฐานทางธุรกิจที่เป็นตัวเลข เจ๊เมาธ์ไม่ขอเถียงอะไรทั้งสิ้น...เพราะมันคือเรื่องจริงที่วัดผลและพิสูจน์ได้
เจ๊เมาธ์ เคยบอกไปว่าหุ้นตัวนี้มีสิ่งที่เรียกว่า “ความเชื่อมั่น” แฝงอยู่ สิ่งนี้ไม่มีตัวเลขที่ใช้ชี้วัดอะไรได้ แต่ในทางกลับกัน “ความเชื่อมั่น” มันคือความมั่นใจของนักลงทุน พร้อมจ่ายเพื่อซื้อความเชื่อมั่นของตัวเอง ดังนั้น ไม่น่าแปลกใจทำไม OR ยังสามารถยืนราคาเหนือ 30 บาท มาได้ตั้งนาน เอาเป็นว่าเจ๊เมาธ์ยังเชื่อ...และแนะนำว่า OR เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ควรมีไว้ในพอร์ตนะคะ