“สี จิ้นผิง”ชู “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ช่วยลดความยากจนประชากรโลก

25 เม.ย. 2564 | 10:38 น.

“สี จิ้นผิง” ชู “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เป็นหนทางแห่งการบรรเทาความยากจนประชากรโลก ชี้จะช่วย 7.6 ล้านคนให้หลุดพ้นความยากจนระดับสูงสุด ส่วนอีก 32  ล้านคนหลุดพ้นยากจนระดับปานกลาง

วันนี้(25  เม.ย.64) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับปาฐกถาพิเศษของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในพิธีเปิดการประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว ประจำปี ๒๐๒๑ (พ.ศ.๒๕๖๔) ในหัวข้อเรื่อง “ร่วมมือขจัดความยากลำบากในปัจจุบัน ร่วมกันสร้างอนาคตร่วมกัน” ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโป๋อ๋าว มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) เมื่อวันที่ ๒๐ เม.ย.๖๔ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

 ๑. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยกล่าวหลายครั้งว่า “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ “ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง” “Belt and Road Initiative” : BRI) เป็นหนทางอันกว้างใหญ่ที่เปี่ยมด้วยแสงแดดที่ผู้คนทั้งหลายจูงมือก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันได้ หาใช่ถนนส่วนบุคคลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประเทศที่มีความสนใจทุกประเทศล้วนเข้าร่วม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ได้ ร่วมกันมีส่วนร่วม ร่วมมือและได้ประโยชน์ร่วมกัน การร่วมกันสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” นั้นก็เพื่อแสวงหาการพัฒนา ส่งเสริมชัยชนะร่วมกัน และถ่ายทอดความหวัง 
 

๒. มองไปในอนาคต จีนจะร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ ดำเนินการสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ด้วยคุณภาพสูงต่อไป ปฏิบัติตามหลักการร่วมหารือ ร่วมสร้าง ร่วมแบ่งปัน เชิดชูแนวคิดแห่งการเปิดกว้าง ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และความซื่อสัตย์สุจริต ใช้ความพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายที่มีมาตรฐานสูง อำนวยประโยชน์แก่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและมีความยั่งยืน 

๒.๑ จะสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนแห่งความร่วมมือด้านสาธารณสุขที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น วิสาหกิจจีนได้ดำเนินการร่วมผลิตวัคซีนในประเทศหุ้นส่วนที่ร่วมสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เช่น อินโดนีเซีย  บราซิล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาเลเซีย ปากีสถาน และตุรกี เป็นต้น เราจะขยายความร่วมมือกับฝ่ายต่าง ๆ ด้านการป้องกันควบคุมโรคระบาด สาธารณสุข การแพทย์ และยารักษาโรคที่มีมาแต่ดั้งเดิม เป็นต้น ร่วมกันคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชนประเทศต่าง ๆ  

๒.๒ จะสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนแห่งการเชื่อมโยงถึงกันที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น จีนจะร่วมมือกับทุกฝ่ายเสริมสร้าง “การเชื่อมโยงแบบฮาร์ด” ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน  และ “การเชื่อมโยงแบบซอฟท์” ด้านกฎระเบียบและมาตรฐาน ทำให้ช่องทางความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนมีความคล่องตัว ตลอดจนพัฒนาการค้าอิเล็กทรอนิกส์เส้นทางสายไหมอย่างแข็งขัน ร่วมกันบุกเบิกอนาคตอันรุ่งโรจน์แห่งการพัฒนาอย่างหลอมรวมกัน 

๒.๓ จะสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนแห่งการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น สร้างเสริมความร่วมมือด้านสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน พลังงาน การเงิน และอื่น ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงแพลตฟอร์มแห่งความร่วมมือแบบพหุภาคีให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่น สหพันธ์นานาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่ง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และหลักการลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่ง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เป็นต้น  ทำให้ความเป็นสีเขียวกลายเป็นสีพื้นฐานแห่งการร่วมสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” อย่างแท้จริง  

๒.๔ จะสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนแห่งการเปิดกว้างและหลอมรวมกันที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น 

 

บทสรุป มีรายงานที่เกี่ยวข้องของธนาคารโลกระบุว่า ภายใน ค.ศ.๒๐๓๐ (พ.ศ.๒๕๗๓) การร่วมสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” อาจช่วยเหลือประชากรโลก ๗.๖ ล้านคนให้หลุดพ้นจากความยากจนระดับสูงสุด ส่วนอีก ๓๒ ล้านคนจะหลุดพ้นจากความยากจนระดับปานกลาง 

โดยจีนจะยึดมั่นเจตนารมณ์แห่งการเปิดกว้างและหลอมรวม ใช้ความพยายามร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ ที่ยินดีเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ให้เป็น “หนทางแห่งการบรรเทาความยากจน” และ “หนทางแห่งการเติบโต” ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างคุณูปการอย่างแข็งขันต่อการก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของมวลมนุษยชาติ