ได้ความไม่ชัดเจนบทหนึ่งอ้างถึงนักวิจัยไม่ปรากฏชื่อแสดงทัศนะว่า ความฉลาดทางสติปัญญา หรือ I.Q. (Intelligence Quotient) มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลสำเร็จในชีวิต 20% ถ้าจะให้ดีก็น่าจะบอกให้ชัดอีกสักนิดว่า ใครหัวไม่ไว่ใจอย่าเพิ่งฝ่อ เพราะว่า
1. I.Q. เป็นทักษะที่สามารถพัฒนาได้ 2. แม้นว่ายกระดับ I.Q. ไม่ไหวจริงๆ เราก็ยังมีปัจจัยอื่นสนับสนุนเราอีก 80% ถ้าแจงกันในทำนองนี้ ภาพลักษณ์ของ I.Q. จะยังมีภาพลักษณ์ปกติดีอยู่ เชื่อว่าผู้นำเสนอไม่ได้ตั้งใจจะด้อยค่าให้ I.Q. เสียหาย หากรำพึงเอาไว้โดดๆว่า I.Q. มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลสำเร็จในชีวิต 20% จะทำให้สังคมแปลเป็นอื่นได้ว่า I.Q. ไม่มีความสำคัญสักเท่าไหร่ ไม่ได้พูดเล่น มี I.Q. 1% ดีกว่า มี I.R. 1%
I.R. (Idiot Rating) คือ ระดับความโง่เขลาทางความคิด (อุต๊ะ)
แต่ก่อนเจอกันเราจะทักว่า “สวัสดีครับ!” วันนี้เจอกันอาจจะเปลี่ยนเป็น “สวัสดีเคียฟ!” (ฮา) เล่นมุกลักษณะนี้พึงระวังให้ดีเรื่องตาม้าตาเรือ เล่นผิดที่ผิดโอกาสอาจจะพลิกชะตาเป็นตลกร้ายโดนเทเอาดื้อๆ โทษฐาน ช่างคิดในแง่มุมที่ไม่มีใครคิด แต่ลืมคิดไปว่า งดพูดในสิ่งที่คิดจะดีกว่า ความเฉลียวแบบนี้ใครไม่มีทักษะจะตกถังขยะแทนถังข้าวสาร โทษฐาน คิดแต่จะฮา ไม่พิจารณา “กาละ” และ “ศรีษะ” (ฮา)
ผู้จัดการถามพนักงานทั้งห้องประชุมว่า “ในมุมมองของพวกเรา คำว่า พนักงาน คือ อะไร ใครอธิบายได้โดนใจผมจะปูนบำเหน็จให้เป็น ผู้ช่วยหัวหน้างาน?” บางคนตอบว่า พนักงาน คือ ลูกน้อง บางคนบอกว่า พนักงาน คือ ผู้รอรับคำสั่ง บางคนแปลว่า พนักงาน คือ ผู้น้อย นายฉุกใจ ลุกขึ้นแถลงข้อคิดหนึ่งจุดว่า
“ผมขอประทานอนุญาตเล่าคำแนะนำที่คุณแม่สอนให้ท่านพิจารณานะครับ ท่านสอนผมว่า เกิดมาทั้งทีอย่าให้เสียชื่อ คนเรามีชื่อกันหลายชื่อเชื้อชาติ ชื่อตระกูล ชื่อตัวเอง ชื่อตำแหน่ง ชื่อบทบาท พนักงาน มาจากคำสองคำเอามารวมกัน พนักกับงาน พนัก แปลว่า ที่พิง งาน คือ ภาระ ภาระ แปลว่า หนัก พนักงาน คือ ที่พักพิงของภาระที่หนักอึ้ง พนักงาน คล้ายกับ เก้าอี้ ถ้าไม่มี พนัก เอาไว้ พิง ครับท่าน” (ฮา)
เรามี I.Q. สต๊อคไว้ในหัวสัก 1% เราก็มีวาสนาได้รับการรดน้ำสังข์
ผู้จัดการเล่าให้ลูกน้องฟังว่า “เราทำแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์เวอร์ชั่นใหม่ ล้ำสมัยเหนือชั้นกว่าคู่แข่ง สะดวกต่อการเลือกชมสินค้าที่บริษัทผลิตทุกรายการ บริษัทได้จัดทำโซนพิเศษไว้ให้พวกเราเอาสินค้าส่วนตัวมาขาย หรือ แลกเปลี่ยนกันเอง ภรรยาผมจะเอาบราเซียใหม่สุดปล่อยให้ประมูลแข่งกันเพื่อผ่อนคลายหลังงานเลิก คุณกระท่อม จะลองเอาอะไรมาปล่อยบ้างไหมล่ะ?”
คุณกระท่อม โฟร์แมนคนสนิท รับมุกทันทีไม่มีลีลาลังเล เขาเล่นมุกด้วยความมั่นใจว่า “ผมว่าจะเอาบราเซียมือสองของแฟนมาปล่อยนำร่อง เผื่อจะมีใครซื้อเอาไว้ดมแก้ง่วงนะครับ!” ผู้ร่วมประชุมแปรรูปเป็น “ม็อบเก็บเสียง” งานนี้พระภูมิเจ้าที่ช่วยไม่ทัน! (ฮา)
เรามี I.R. สต๊อคไว้ในหัวสัก 1% เราจะมีวาสนาได้รับการรดน้ำศพ
อย่ามัวแต่ฉลาดเรื่องการทำกิน การรู้จักเอาตัวรอดก็สำคัญไม่ใช่น้อย ขอกราบเท้าชี้แนะท่านสุภาพสตรีสักเล็กน้อย ข่าวคราวเรื่องผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของคนที่กลายพันธุ์จาก เวไนยสัตว์ คือ สัตว์ที่พอดัดได้สอนได้!
เปลี่ยนเป็น เวย์ - ไหน - ล่ะ - สัตว์ มาจากทางไหน จะไปทางไหน ทำไมดิ่งมาหาเราล่ะนี่ ทบทวนตัวอย่างสักหนึ่งกรณีก็พอ เมื่อปี 2537 สันติ ศรีธนะขัณฑ์ ถูกซัดทอดว่าเป็นผู้รับซื้อเพชรเจ้าปัญหา เมื่อไม่พบตัวสันติ คนร้ายก็อุ้มลูกชายและภรรยาของสันติเอาไปขังไว้ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง
ภรรยานายสันติ โมโหจึงพูดขู่คนลักพาตัวด้วยความคับแค้นใจว่า “ถ้ากูหนีออกไปได้ กูจะเอาตำรวจมาลากคอพวกมึงทุกคน!” ถ้าเราเป็นผู้ร้ายเราจะขังไว้หรือจะฆ่าทิ้ง กรณีนี้คนร้ายฆ่ายัดรถเบนซ์เอาไปจอดทิ้งไว้แล้วขับสิบล้อมาชนเพื่ออำพรางคดีว่าเป็นอุบัติเหตุ
ในฐานะที่เป็นผู้ชำนาญการในการพูดมาก (ฮา) ผมขอเตือนด้วยความหวังดีว่า อย่าพูดทำนองนี้แม้แต่คำเดียว
ความรู้ความสามารถอื่นใดที่เรามีอยู่ 80% ล้วนเป็นภูมิปัญญาและทักษะอันสุดจะประเสริฐก็จริงอยู่
แต่ถ้าเราอาภัพไม่มี I.Q. แม้แต่ 1% ท่าทีที่เหมาะสมที่สุดเมื่อเจอวิกฤติคุกคาม คือ นิ่งเสียตำลึงทอง เชื่อบรรดา ผู้มีอายุยืน (คน Gen X) ไว้ก่อน ท่านแนะนำเรามานานแล้วว่า “นิ่งเป็นปราชญ์”
จำกันไว้อีกสักหนึ่งดอก ใครมาชวนไปดินเนอร์โดยจะทิปเราห้าพัน ให้เหล่ไว้ก่อนว่าสงสัยคงจะซื้อเสียง ห้ามส่งเสียงแม้แต่คำว่า ช่วยด้วย เพราะเราขายเสียงเขาไปแล้ว อนึ่ง อย่าลืมเอาชูชีพติดตัวไปด้วยนิ (อมิตตพุทธ)