สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ท่านปักหมุดชุดความคิดว่า “กิจกรรมที่มนุษย์กระทำอยู่ทุกวันนี้ ทุกอย่างได้มาจากการเรียนรู้และการฝึกฝนพัฒนาตนเองทั้งสิ้น ถ้ามนุษย์เราไม่มีการเรียนรู้หรือฝึกฝนอบรมตนอยู่ตลอดเวลามนุษย์จะไม่มีความประเสริฐ เพราะว่ามนุษย์นั้นเป็นสัตว์ที่โดยลำพังถ้าไม่มีการฝึกตนจะสู้สัตว์ชนิดอื่นไม่ได้เลย” ผมเห็นด้วยไม่ต้องแจกกล้วยก็ยกมือให้ (ฮา)
เอาแค่ หนีงู กับ หนีช้าง จะวิ่งกันทันหรือเปล่า ผู้ที่ไม่มีการศึกษา อัตลักษณ์งู ถ้ามัวแต่วิ่งหนีคดเคี้ยวเลี้ยวไปเลี้ยวมาสักครู่ตัวเองก็จะซี้เลี้ยว ผู้มีอายุยืน ท่านจะแนะว่า งูเขาเสียระยะทางเพราะเขาเลื้อยคดเคี้ยวแต่ปราดเปรียวพอที่จะไล่ฉกทัน หนีงูให้วิ่งทางตรงถึงจะมีแววรอด หนีช้างให้วิ่งเลี้ยวซิกแซกเพราะเขาอุ้ยอ้าย จะเห็นได้ว่า การศึกษา คือ รากเหง้าของนิสัย นิสัย คือ ต้นตอของอัตลักษณ์ หน่อเนื้อนาบุญของเอกลักษณ์
คิดอยู่เพลินๆ ภาพ หมา นั่งเรียงแถว มุดแทรกแว้บเข้ามา หมาก๊วนนี้ธรรมดาซะที่ไหน บางตัวเป็น จ่า บางตัวก็ นายดาบ พวกเขาเป็น สุนัขตำรวจ นั่นเอง นั่งอยู่นิ่งๆ จู่ๆ ก็มี แมว เดินผ่านหน้าเหมือนไม่เห็นหมาอยู่ในสายตา (ฮา) หมาทุกตัวยังคงสงวนท่าที โค้ช กับ หมา คุยตกลงกันไว้เคลียร์ ตราบใดที่มิได้สั่งว่า แอ็คชั่น! ให้อดใจไว้ก่อน หมาสายอคาเดมี่ วินัยดีกว่า หมาสายวัด เพราะว่า เขาเป็น หมาผู้มีการศึกษา (ฮา)
ความเห็นเกี่ยวกับความหมายของ อัตลักษณ์ กับ เอกลักษณ์ ยังนิ่งไม่พอ แต่สามารถจะนิยามกันได้ในระดับหนึ่งว่า อัตลักษณ์ คือ คุณลักษณะเฉพาะตัว เช่น น้ำเสียง ลายพิมพ์นิ้วมือ สีผิว สามารถกระดิกใบหูได้
เอกลักษณ์ คือ ลักษณะที่เหมือนกันหรือมีร่วมกัน เช่น ผู้นับถือศาสนานี้จะแสดงความเคารพพระศาสดาด้วยการ กราบไหว้ เหมือนกัน ผู้นับถือศาสนานั้นจะแสดงความเคารพพระศาสดาด้วยการ เอามือแตะ หน้าผาก หน้าอก ไหลซ้าย ไหล่ขวา เหมือนกัน หรือ หมู่บ้านงูจงอางจะขลุกอยู่กับงู คล้ายกับ หมองูที่กินแรงงูที่อินเดีย
ก็เอาเป็นว่า อัตลักษณ์ กับ เอกลักษณ์ จะเป็น จุดรวมของภาพลักษณ์ มีผลต่อการทำมาหากินและการใช้ชีวิต ถ้าเราปรับเปลี่ยนมันไม่ได้ เราก็ปรับแต่งให้เหมาะสมกว่าเดิม หรือไม่ก็ใช้มันเป็นจุดขายนำร่องชีวิตมันไปเลย
ถ้าผมเป็นคนผิวดำ ผมก็จะบอกกับลูกค้าว่า “วันก่อนคุณอยากได้หมูเกรดพิเศษ ช่วงนี้หมูขาดตลาด สำหรับคุณผมยินดีขวนขวายไปเสาะหามาให้ตามคำบัญชา ผมตามล่าจนแดดเผาเนื้อตัวดำเมี่ยมเลยเนี่ย” (ฮา) ลูกค้าจะขำชอบใจไปหลายวัน ลูกค้าอาจจะขอเซลฟี่เอารูปเราไปโพสต์เล่าประกอบมุก เผลอๆ ดังในวันเดียว
อิด (Id) ความรู้สึกดิบๆ ที่ปลดปล่อยพยาธิความอยากออกมาจากซอกสมอง หรือ หลืบหัวใจ เพราะมีตัวป่วนบางสิ่งไปเขย่าทำให้สันดานที่ตกตะกอนมันกระฉอก อาการจะ จึ้ง หรือ เจี๊ยก แล้วแต่ว่าสมุนของจิตมันหมกมุ่นอยู่กับ น้ำในโอ่ง หรือ น้ำในอ่าง (ฮา)
อีโก้ (Ego) ความนึกคิดที่ผ่านการโต้แย้งกันเองระดับหนึ่งระหว่าง สันดาน กับ สัญชาตญาณ ถ้า สัญชาตญาณ เคยฉีด วรรคศีล คือ ทำตามศีลนิดหนึ่งแล้วเว้นวรรคซะหน่อยนึง (ฮา) ลีลาสุภาพตอบรับโบนัส เล่นแง่ฮึดฮัดตอนหัวหน้าขอแรง (ฮา)
ซูเปอร์อีโก (Super Ego) นิสัยระดับนี้จะรู้สึกนึกคิดถึงการอยู่ร่วมกันอย่างมีความเหมาะสม เริ่มแยแสในแง่มุมมนุษยธรรม มีอยู่คราวหนึ่งไปบรรยายที่หัวหิน จะโทรศัพท์แต่มันดับวูบจึงต้องโทรทางไกลด้วยโทรศัพท์ของโรงแรม พูดจบกลายเป็นโทรฟรีเพราะมีน้องหญิงคนหนึ่งแอบจ่ายให้ เขาเดินเข้ามาบอกว่า
“วันนี้หนูมีโอกาสได้ขอบคุณ วันก่อนหนูกับลูกสาวโหนรถลีมูซีนที่ดอนเมือง รถเลี้ยวลูกสาวเกือบล้ม อาจารย์ถือของพะรุงพะรังลุกขึ้นยืนให้เขานั่ง เวลาอาจารย์ออกทีวีทีไร เขาเรียกหนูชี้ให้ดูที่หน้าจอแล้วบอกว่า แม่ นี่ไง ลุงที่ยืนให้หนูนั่งที่ดอนเมือง”
อันที่จริงมันก็แค่สปิริตเล็กๆ แต่สำหรับเด็กหรือคนที่ปวดแขนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ผมเคยทอล์คแซวว่า “รถเมล์ช่วยเอาสติ๊กเกอร์ โปรดเอื้อเฟื้อแก่ เด็ก สตรี และ คนชรา ออก จัดทำสติ๊กเกอร์เสียใหม่ว่า โปรดเอื้อเฟื้อที่นั่งแก่ทุกเพศทุกวัยที่เมื่อย น่าจะเพี้ยะกว่า” (ฮา)
เพี้ยะ คือ เสียงที่เกิดจากเอามือตบขา เป็นจริตที่บ่งบอกว่า ใช่เลย แถมอีกสักคำฮิ ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ คุยกันเฟื้อยเลย เฟื้อย คือ ยาวนาน แสดงว่า คนพูดถึงกันเรื่อยๆ ยาวเฟื้อยไม่มีเบรค สองคำนี้ผมบัญญัติเอง!
เกิดมาจะโชว์ อีโก มันทั้งที ก็แต่งองค์ทรงเครื่องให้มันหรูเป็นซูเปอร์อีโก ซะหน่อย จะเป็นไรไป มันจะยากเย็นเข็ญใจสักแค่ไหนกับการเอา DNA ไปขังมันไว้ แล้ว GMO ตัวเองซะใหม่ ขอแค่ว่าอย่าไปอุตริทำอะไรให้ใครต่อใครเขาเดือดร้อน แค่นี้เราก็จะไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีท่านท้าวเวสสุวรรณแบบว่าเข้าขั้นใช้ได้เลยนิ