การแถลง 10 นโยบายเรือธงทำทันทีต่อรัฐสภา ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 กันยายน นับเป็นอีกก้าวสำคัญของรัฐบาลต้องเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เห็นเป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชน
ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจอ่อนแอประชาชนมีรายได้ตํ่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนนำมาซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ อีกทั้งยังถูกซํ้าเติมจากปัญหาภัยพิบัติ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอีประสบปัญหาขาดสภาพคล่องสถาบันการเงินเข้มงวด การปล่อยสินเชื่อและนำไปสู่การล้มหายตายจาก
อย่างไรก็ตาม นโยบายเรือธง 10 ข้อ คือ ความหวัง ความฝันของประชาชน และ นักธุรกิจตัวจิ๋ว จากการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนชีพโดยเร็ว แม้จะเป็นการบรรเทาแก้ปากท้องระยะสั้น ที่เป็นไฮไลต์ โครงการแจกเงิน (สด) ดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับ กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ จำนวน 14.5 ล้านคน วงเงิน 1.45 แสนล้านบาท หลังวันที่ 20 กันยายนที่จะถึงนี้ ผ่านธนาคารกรุงไทย สามารถนำไปเบิกจ่ายใช้หนี้ได้ตามแต่ต้องการไม่มีกติกาบังคับใดๆ เหมือนก่อนหน้านี้
ขณะอีกกลุ่มที่อยู่ในระบบลงทะเบียน อาจแบ่งเงินเป็นสองก้อนๆละ 5,000 บาท คาดว่าจะจ่ายเป็นเงินสดเช่นกัน
ที่ประชาชนตั้งตาคอย คงหนีไม่พ้น รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้ว 2 เส้นทาง และประสบความสำเร็จมีประชาชนเข้าใช้เพิ่มขึ้น ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดง และ สายสีม่วง ที่นำร่องมาตั้งแต่ปี 2566 และมีเป้าหมาย ดำเนินการให้ครบตามจำนวนที่เปิดให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น สายสีเหลือง สายสีชมพู สายสีทอง สายสีเขียว รวมถึง สายสีนํ้าเงิน
แต่ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม และ กระทรวงการคลัง ต้องตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขึ้นเพื่อมีเงินดำเนินการอย่างลื่นไหล ซึ่งประเมินว่าจะใช้เงินไม่ตํ่ากว่า 16,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงไว้ และสอดรับกับวิสัยทัศน์ของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พูดในงาน “Dinner Talk Vision for Thailand 2024” จัดโดยเนชั่น
นอกจากนี้ ยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องสานต่อ ได้แก่ โครงการแลนด์บริดจ์มูลค่า 1 ล้านล้านบาท เพื่อส่งเสริมการขนส่งทางนํ้า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
โครงการที่เรียกเสียงฮือฮามาระยะหนึ่งคงหนีไม่พ้น “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” และ กาสิโนถูกกฎหมาย ตามนโยบายรัฐบาล ที่สานต่อมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ และกระทรวงคมนาคมได้ขานรับนโยบาย โดยมองท่าเรือกรุงเทพ หรือ ท่าเรือคลองเตย เป็นส่วนหนึ่งในโครงการดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลเป้าหมายตามที่ ดร.ทักษิณ ได้โชว์วิสัยทัศน์ไว้ เป็นต้น
สำหรับนโยบายทำทันที ประกอบด้วย 1.ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ 2.ดูแล ส่งเสริม ปกป้องผลประโยชน์ผู้ประกอบการไทย/SMEs 3. ลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค 4.นำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี 5.กระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอันดับแรก
6.ยกระดับเกษตรดั่งเดิมเป็นเกษตรทันสมัย 7.ส่งเสริมการท่องเที่ยว/แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้าง 8.แก้ปัญหายาเสพติดเด็ดขาด ครบวงจร 9.แก้ปัญหาอาชญากรรม ออนไลน์/ข้ามชาติ และ10.จัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
ทั้งนี้ ในที่สุดแล้ว พายุหมุนทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นหรือไม่ ต้องจับตามอง!!!