***คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3859 ระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ.2566 โดย “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย
*** วันที่ 6 ก.พ. 2566 นี้แล้ว ที่ “จีน” เปิดโอกาสให้ “กรุ๊ปทัวร์จีน”สามารถพาคนจีน เดินทางออกนอกประเทศเพื่อท่องเที่ยวได้ ใน 20 ประเทศ หลังกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ได้ประกาศอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวเริ่มดำเนินการนำร่องการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ หรือ กรุ๊ปทัวร์ สำหรับชาวจีนไปยังประเทศที่เกี่ยวข้องได้
โดยให้บริษัทนำเที่ยวและบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ทั่วประเทศจีน ดำเนินกิจการจัดการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะรวมถึงธุรกิจ ตั๋วเครื่องบิน-โรงแรม สำหรับชาวจีนไปยัง 20 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา มัลดีฟส์ ศรีลังกาฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ เคนยา แอฟริกาใต้ รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ ฮังการีนิวซีแลนด์ ฟิจิ คิวบา และ อาร์เจนตินา
*** จากประกาศดังกล่าว จะส่งผลให้การเดินทางของนักท่องเที่ยว ทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยงประเทศไทย ในแบบ “กรุ๊ปทัวร์” จากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นแบบมาด้วยตัวเอง หรือ FIT เป็นส่วนใหญ่
ขณะที่ประเทศคู่แข่งด้านการท่องเที่ยวของไทยในตลาดจีน อย่าง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม ยังไม่อยู่ในลิสต์รายชื่อที่จีนอนุญาตให้กรุ๊ปทัวร์เดินทางท่องเที่ยวได้ในประกาศนี้
การประกาศให้คนจีนเดินท่องเที่ยวผ่นกรุ๊ปทัวร์ได้ ถือเป็นการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางที่เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลจีน อนุญาตให้คนจีนขอวีซ่าเดินทางออกต่างประเทศได้ทั้งหมด 9 ประเภทเท่านั้น ได้แก่ วีซ่าเยี่ยมญาติ, วีซ่าธุรกิจการค้า, วีซ่ากิจธุระ, วีซ่าทำงาน, วีซ่าเข้าเยี่ยมชมการดูงาน หรือ การทำงาน การเรียนต่อในประเทศจีน รวมถึงธุระส่วนตัว, วีซ่านักเรียน, วีซ่าลูกเรือ, วีซ่าขอผ่าน และ วีซ่าบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ
*** ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีน เดินทางเข้าประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน กลับมามากเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 20% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่คาดการณ์มีไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน หลังจากปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 11 ล้านคน มากเป็นอันดับ 1 ครองสัดส่วน 27% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยทั้งหมด 39.9 ล้านคน
*** อานิสงส์จากการที่จีนเปิดโอกาสให้ชาวจีน ออกท่องเที่ยวนอกประเทศได้ สำหรับประเทศไทยแล้ว ทำ “เศรษฐกิจไทย” เริ่มเห็นความหวังที่จะกระเตื่องขึ้นมากกว่าเดิม จากภาคการท่องเที่ยวที่จะเติบโตกว่าที่เคยประเมินไว้
พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) มองว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ มีความหวังจากการฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว จากการเปิดประเทศของจีนที่เร็วกว่าคาด แต่อีกด้านเป็นปีที่ลำบาก เพราะการฟื้นตัวอยู่ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจโลก ที่ยังเป็นมรสุมต่อเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 3.6% จากคาดการณ์เดิมที่ 2.8% หลักๆ มาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 25 ล้านคน ขณะที่คาดการณ์เดิมประเมินไว้ที่ 19 ล้านคน ที่เป็นตัวพยุงเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง และทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมากนัก
*** เช่นเดียวกับ ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ในเดือน ธ.ค. และไตรมาส 4 ปี 2565 แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจาก “การท่องเที่ยว” เป็นหลัก ที่ช่วยหนุนการบริโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้น
โดยการท่องเที่ยว ทั้งไตรมาส 4 อยู่ที่ 5.4 ล้านคน ส่งผลให้ทั้งปีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 11.15 ล้านคน ที่ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจเดือน ม.ค.2566 ยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
สะท้อนว่าการเดินทางของประชาชนที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง จากการกลับมาของนักท่องเที่ยว สำหรับการขยายตัวของ “ภาคท่องเที่ยว” ปัจจุบันมีสัดส่วนต่อจีดีพีเพียง 11-12% ขณะที่ส่งออกมีสัดส่วนถึง 53% ดังนั้น ต้องติดตามพัฒนาการท่องเที่ยว ว่าเพิ่มได้มากน้อยแค่ไหน และจะมีส่วนชดเชยส่งออกที่หายไปได้หรือไม่
*** “ภาคท่องเที่ยว” ถือเป็น “เรือธงหลัก” ณ ขณะนี้ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เจริญเติบโต ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีปัญหาอะไรมาเป็น “อุปสรรค” ให้จีนต้องกลับไปควบคุมการเดินทาง หรือต้องปิดประเทศอีก...