*** คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,940 ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ย. 2566 “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย
*** ยังคง “ว้าวุ่น” และ “วุ่นวาย” ไม่จบ สำหรับ “โครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท” ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ “รัฐบาลเศรษฐา” กำลังจะออก พ.ร.บ.กู้เงิน จำนวน 5 แสนล้านบาท มาใช้ดำเนินโครงการนี้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะออกเป็น “พ.ร.บ.กู้เงิน” ได้หรือไม่? เพราะมีหลายฝ่ายออกมาแสดงความเป็นกัวลว่า จะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 140 และขัดพ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง มาตรา 53 ...ก็เลยทำให้เกิดภาวะ “ไม่แน่นอน” เกิดขึ้นว่าการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะไปต่อได้ หรือ มีอันต้องล้มโครงการลง
*** เบื้องต้นคนที่จะชี้ว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท จะออกได้หรือไม่ คือ “คณะกรรมการกฤษฎีกา” ซึ่ง ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ออกมาบอกเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมาว่า นายกฯ เศรษฐา ได้สั่งการโดยตรงให้ดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการออกพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ให้ละเอียดรอบคอบที่สุด
รวมทั้งให้ใช้เวลาในการดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้เต็มที่ “ท่านนายกฯ ได้โทรศัพท์มาหาผมเองสั่งการว่าให้ดูเรื่องนี้โดยละเอียด ให้ใช้เวลาได้เต็มที่ให้ดูดีๆ ท่านไม่อยากทำผิดกฎหมาย กฎหมายว่าอย่างไรให้ว่าอย่างนั้น โดยขั้นตอนนี้อาจจะใช้ระยะเวลานาน ก็ต้องมีการปรับแผนงานก็ถือว่าเป็นการทำงานตามขั้นตอนปกติ”
*** ความเห็นของ คณะกรรมการกฤษฎีกา จะเป็น “ด่านแรก” ว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทจะ “ไปต่อ” ได้หรือไม่ หากไปต่อได้ก็ไปเจอ “ด่านสอง” คือ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งฝ่ายรัฐบาลมั่นใจหนักหนาว่า ไม่น่าจะมีปัญหา ก่อนไปเจอ “ด่านสาม” คือ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ซึ่งต้องลุ้นว่า จะให้ผ่านหรือไม่ แต่ถึงแม้ ส.ว. ไม่ให้ผ่าน รัฐบาลก็สามารถใช้มติของ “สภาผู้แทนราษฎร” ยืนยันร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ และต้องไปจบที่ “ด่านสุดท้าย” คือ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ที่จะวินิจฉัยให้ “พ.ร.บ.เงินกู้” ได้ไปต่อ หรือ “ตีตก” ทั้งหมดขั้นตอนยังอีกยาวไกล กว่ากฎหมายจะผ่านออกมาได้ ดังนั้น “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” จะไปเข้ากระเป๋าคนไทยราว 50 ล้านคน ได้หรือไม่ ลุ้นกันไปยาวๆ
*** ขณะที่ “นายกฯ เศรษฐา” ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะเตรียมแผนสำรองหาก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ไม่ผ่านการตีความจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า ไม่เฉพาะพรรคเพื่อไทยอย่างเดียวที่กังวล แต่ประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ประสบปัญหาสะสมมาโดยตลอดในเรื่องของจีดีพีที่ไม่เติบโตมานาน ทุกคนมีความเป็นห่วงว่านโยบายนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งตนเคยพูดไปแล้วว่า ประเทศไทยอยู่ในสภาพ “เศรษฐกิจวิกฤต” และมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ถือเป็นนโยบายสำคัญที่เราจะผลักดันให้เกิดขึ้น และมั่นใจว่าจะมีการผลักดันให้เกิดขึ้น
*** “ไม่อยากจะบอกว่ามีแผนสำรองอย่างไร แต่เราทำงานโดยมีหลายมาตรการที่กระตุ้นเศรษฐกิจออกมา วันนี้โฟกัสเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต และที่ผ่านมารัฐบาลแสดงจุดยืนชัดเจนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีขั้นตอนชัดเจน อีกทั้งต้องคอยฟังทางคณะกรรมการกฤษฎีกา และขออนุมัติจากรัฐสภา ที่ชัดเจนออกมาด้วย ...หากเกิดอะไรขึ้น เราแก้ไขปรับปรุงได้” นายกฯ เศรษฐา ระบุ
*** หันไปดูการปฏิบัติภารกิจของ “นายกฯ เศรษฐา” ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา มี “ข่าวดี” เกิดขึ้น จากคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ไทย ที่เล่าถึงผลการหารือกับผู้บริหาร Walmart ห้างค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย Walmart มีความต้องการที่จะเปิดตลาดในไทยมากขึ้น จึงได้มีการพูดคุยถึงซอฟพาวเวอร์ของไทยที่เป็นอาหารพื้นเมืองให้เข้าไปขายใน Walmart รวมทั้งอาหารฮาลาล ที่มีขายอยู่ในหลายรัฐในสหรัฐ ส่วนการพบปะกับ เวสเทิร์น ดิจิทัล บริษัทผลิตฮาร์ดแวร์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความต้องการลงทุนเพิ่มในไทย และต้องการจะย้ายฐานการผลิตจากประเทศฟิลิปปินส์มาที่ประเทศไทย
*** นอกจากนั้น นายกฯ ไทย ได้พูดคุยกับผู้บริหารบริษัท AWS ซึ่งเป็นบริษัทในเครือแอมาซอน จัดทำคลาวเซอร์วิส ได้เซ็นสัญญาที่จะเข้ามาลงทุนแล้ว และจะเปิดดำเนินการเร็วๆ นี้ เป็นดาต้าเซ็นเตอร์ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เป็นบริษัทแรกที่ลงทุนแล้ว และจะลงทุนเพิ่มอีก ขณะที่การหารือกับ Google เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ได้มีการลงนามเอ็มโออยู่กันเรียบร้อยแล้วที่จะมาทำดาต้าเซ็นเตอร์เช่นกัน
สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก 3 ราย ที่มาทำดาต้าเซ็นเตอร์ ได้แก่ AWS, Google และ Microsoft ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลไทย จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย ให้ได้รับการยอมรับในอนาคตอันใกล้นี้ ...ทั้งนี้มีรายงานว่า ทั้ง Google และ Microsoft ที่เข้ามาลงทุน Data Center ในประเทศไทย เบื้องต้นจะมีมูลค่าการลงทุนมากถึงบริษัทละ 100,000 ล้านบาท รวมกันกว่า 200,000 ล้านบาท
*** ปิดท้าย ...ตอกย้ำความเป็น “โกลบอล เดสติเนชั่น” หรือ สุดยอดจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก งานลอยกระทงปีนี้ สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ ไอคอนสยาม ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมพันธมิตร เตรียมจัดมหาปรากฏการณ์งานลอยกระทงสุดยิ่งใหญ่ปี 2566 ในงาน “ICONSIAM CHAO PHRAYA RIVER OF ETERNAL PROSPERITY” ลอยกระทงบนสายน้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง คว้านางเอกเจ้าสาวคนสวย “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” มาแปลงโฉมเป็นนางนพมาศ สง่างามด้วยชุดไทยและเครื่องประดับทองคำ มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท ในพิธีเปิดงานวันลอยกระทงที่ 27 พ.ย.นี้ เวลา 17.00 น. ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม