ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17พ.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’Meeting) และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 12 – 19 พฤศจิกายน 2566
โดยนายเศรษฐา ได้ทวิตภาพผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว Srettha Thavisin เป็นภาพคู่กับ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมกับข้อความภาษาอังกฤษที่แปลได้ว่า "วันนี้ได้มีโอกาสเซลฟี่กับท่านประธานาธิบดีอย่างเหลือเชื่อ! ดีใจที่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับผู้นำที่ทรงอิทธิพลเช่นนี้"
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล พบว่าเบื้องหลังการถ่ายรูปเซลฟี่ของนายเศรษฐา กับโจ ไบเดน เกิดขึ้นในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค โดย ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ ณ โถงเดอะคอรต์ ออฟออเนอร์ (The Court of Honor) พิพิธภัณฑ์ วิจิตรศิลป์แห่งซานฟรานซิสโก นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทยนั่งติดกับโจ ไบเดน ตามลำดับตัวอักษรของประเทศ
ซึ่ง ขวามือของโจ ไบเดน คือ นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ฝั่งซ้ายคือนายเศรษฐา ขณะที่ซ้ายมือที่นั่งติดกับนายเศรษฐาคือ สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ นายกรัฐมนตรีบรูไน
'โจ ไบเดน' เคยยินดีเศรษฐาในโอกาสรับตำแหน่งนายกฯ
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย.66 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้พบปะกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาแล้วครั้งนึง ในระหว่างงานเลี้ยงรับรองผู้นำที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ UNGA ครั้งที่ 78
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยในครั้งนั้นว่า ได้มีการย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ ที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ามายาวนานกว่า 160 ปี ซึ่งนายไบเดน ได้แสดงความยินดีกับตนเอง ในฐานะได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตนได้ยืนยันว่าจะเป็นคู่ค้า Trading partner ที่ดีต่อกัน และคาดหวังว่าจะมีการหารือทวิภาคีร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่ายในการประชุม APEC ที่ซานฟรานซิสโก ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ จึงจะขอประชุมทวิภาคีร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่ามีโอกาสพบปะผู้นำต่างประเทศหลายท่าน เช่น นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้ามากเรื่อง E-Government โดยไทยติดต่อเพื่อเรียนรู้และขอให้ทางเอสโตเนียถ่ายทอดเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนทางราชการและลดการทุจรติคอรัปชั่น รวมถึงได้พบกับ Prince Albert รองนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และได้หารือว่าหากมีโอกาสจะขออนุญาตไปเยือนสหราชอาณาจักร ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะไปนำเรียนนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ หวังว่าจะมีความคืบหน้าต่อไป