จุดอ่อนช่องว่างกับความไม่ปกติในตลาดหุ้นไทย

22 มิ.ย. 2567 | 03:00 น.

จุดอ่อนช่องว่างกับความไม่ปกติในตลาดหุ้นไทย : คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4,003 ระหว่างวันที่ 23-26 มิถุนายน 2567

*** เศรษฐกิจซึมกระทือ ฝืดเคือง ติดขัด ผลกระทบถ้วนหน้า โดยเฉพาะรากหญ้า ผลผลิตราคาตกตํ่า มีดีอยู่บ้างตรง ทุเรียน กับยางพารา ที่เหลือหลายตัวผลิตออกมาไม่คุ้มทุน แถมเป็นหนี้ ที่หนักอยู่แล้วสมทบเข้าไปอีก จนช่วงนี้ หลายรายไม่มีเจ้าหนี้ให้กู้ยืม อันเนื่องมาจากเจ้าหนี้ก็เปลี่ยนสถานะไปแล้ว

อันนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้มโนไปเอง แต่เกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก เมื่อสถานการณ์ฝืดเคืองเช่นนี้ก็หมุนวนติดขัดเป็นลูกโซ่ กำลังซื้อหดหาย ลามภาคการผลิตสินค้าขายไม่ออก เจอสินค้านํ้าเข้าราคาถูกจากจีนอาศัยฐานภาษี FTA เข้าตีตลาดแทบทุกไอเท็ม หลายธุรกิจหายใจร่อแร่รวยรินเต็มที ฯพณฯ

 

*** ประเดี๋ยว ฯพณฯ จะหาว่าจ้องโจมตีให้ร้าย จำต้องให้ไปดูข้อมูลกันหน่อย ที่นี่เลย “ตลาดหุ้นไทย” ดัชนีทรุดต่อเนื่องตั้งต้นปีนี้ถึงปัจจุบัน ลดลง -9.48% โดยดัชนีขึ้นไปแตะระดับสูงสุด ในวันที่ 4 ม.ค.67 ปิดที่ 1,434.59 จุด และลดลงตํ่าสุดในวันที่ 17 มิ.ย.67 ปิดที่ 1,296.59 จุด หลุด 1300 ไปเรียบร้อย มูลค่าการซื้อขาย เฉลี่ยต่อวัน 43,360.96 ล้านบาท จากพีค 74,843.96 ล้านบาท และตํ่าสุด 25,076.63 ล้านบาท ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิสะสมกว่า 1 แสนล้านบาทไปแล้ว 

อย่าคิดเพียงว่าเป็นเรื่องของคนมีตังค์ เล่นหุ้น มีเจ็บบ้างเมื่อหุ้นลง แต่ดูภาพรวมๆ เขาเรียกความมั่งคั่ง Wealth มันหายไป ก็นำไปสู่การที่นักลงทุนเริ่มชะลอ รัดเข็มขัดไม่อยากจับจ่ายใช้สอย ไม่อยากลงทุน ก็กลับมากระทบต่อธุรกิจโดยรวม  

*** ประเด็นที่ต้องพิจารณาไม่ใช่หุ้นไทยตกลงมา ทำความมั่งคั่งหายไปเป็นเรื่องปกติของการลงทุน แต่มีปัจจัยที่เกิดจากคนกลุ่มหนึ่งไปใช้ช่องว่างของกฎ กติกา ของตลาดทุนที่ไม่รัดกุมพอ ทำให้หุ้นตก ฟันกำไร แสวงหาความมั่งคั่งเข้าตัวเอง แทนการกระจายความมั่งคั่งนั้นออกไป

ทั้งที่หุ้นร่วงมา ทั้งที่บริษัทใหญ่ๆ พอมีกำไร ประกอบธุรกิจไปได้ แต่ถามว่าจะถึงเวลาเข้าไปรับไหม ทุกคนส่ายหน้า เพราะความเชื่อมั่นหดหายไปแล้ว เมื่อความเชื่อมั่นหดหาย แน่นอนลามไปกระทบเศรษฐกิจทั้งระบบ 

*** พวกเขาอาศัยช่องว่างของกฎ กติกา ทำอย่างไร มีผู้รู้ให้ข้อสังเกตในเรื่องการทำ “Short Sell” ประการหนึ่ง ขณะนี้เกิดการขายชอร์ตหุ้นจำนวนมาก (ยืมหุ้นมาขาย) ถามว่าทำได้หรือไม่ แน่นอนว่าหากมีหุ้นก็ขายชอร์ตได้ไม่ผิดกฎ

แต่ทำไม “Short ที่ NVDR” กรณีต่างชาติ อยาก Short หุ้นไทย ไปยืมหุ้นคนไทย ไม่ต้องแปลง NVDR ก็ได้ ขายในกระดานไทย วอลุ่มเยอะ ถึงเวลาต้องจ่าย Dividend ก็ไม่จำเป็นต้องต่างชาติ เป็นคนปกติก็จ่ายตรงได้เลย ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไป NVDR แล้วไป Short ถ้าจะ Short จริงๆ ก็ไปยืมหุ้น Local แล้วก็ Short เสร็จ มี Obligation ที่ต้องจ่าย 

ฉะนั้น คนที่ไป Short NVDR ไม่ต้องการให้คนเห็น เพราะต่างชาติตัวจริงสามารถ Short ได้เลย เป็นความผิดแปลกที่เกิดขึ้น เป็นความไม่ปกติ ที่เป็นปัจจัยหนึ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยร่วงลงมากกว่าที่อื่น

ตามมาด้วยการอำพรางตัวจากนักลงทุนไทย แปรสภาพเป็นนักลงทุนต่างชาติ เพียงตั้งนิติบุคคลในต่างประเทศ แล้วค่อยติดต่อบริษัทนายหน้าค้าหลักทรัพย์เพื่อใช้บริการ และถ้าไม่ขายชอร์ต ผ่าน NVDR ก็จะไม่กระทบกับนักลงทุนต่างชาติ การที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันหุ้นไทย ที่ลดลงเป็นเท่าตัวจากอดีต แสดงถึงต่างชาติตัวจริงมีสัดส่วนในตลาดหุ้นไทยน้อยมาก

*** ถัดมามีการปฏิเสธการทำ “Naked Short Selling” ไม่มีหุ้นก็ส่งคำสั่งขายได้ไม่มีลิมิต อันนี้เหมือนจับเสือมือเปล่า ที่ระบบระเบียบและอำนาจหน่วยงานกำกับดูแลของไทย ไม่เอื้อต่อการตรวจสอบรายชื่อผู้กระทำผิดได้ นี่ถือเป็นอีกช่องโหว่ที่ผู้รับฝากทรัพย์สิน หรือ Custodian อันเป็นหน่วยงานที่เก็บหุ้นของนักลงทุนสถาบัน รวมถึงการชำระราคา และส่งมอบหลักทรัพย์กระทำในเวลาเดียวกัน (Delivery Versus Payment หรือ DVP) 

ตามหลักการ นักลงทุนสถาบันได้รับความไว้วางใจว่า น่าเชื่อถือ จึงไม่ต้องตรวจสอบ นักลงทุนสถาบันต่างประเทศจะขายแค่ไหนก็ได้ แม้จะไม่มีหุ้นในมือ เพียงแต่ต้องซื้อคืนเพื่อปิดสถานะสิ้นวัน หรือ คัสโตเดียน ที่เป็น Omnibus Account อาจใช้เทคนิคการโยกหุ้นในกลุ่มมาปิดสถานะไว้ชั่วคราวได้ จากนั้นค่อยซื้อคืนในวันถัดไป 

ในต่างประเทศหน่วยงานกำกับ ตรวจสอบ สามารถเข้าตรวจสอบได้ทันทีมีหุ้นยืมจริงหรือไม่ อย่างไร แต่หน่วยงานของไทยยังเข้าไม่ถึงการตรวจสอบเหล่านี้ได้ กรณีนี้อาจเป็นช่องโหว่ในการโจมตีตลาดทุนไทย เหมือน จอร์จ โซรอส โจมตีตลาดการเงินไทยจนนำไปสู่วิกฤตต้มยำกุ้ง 

อันนี้อาจคล้ายการโจมตีแบบนั้น ทำลายความเชื่อมั่นไปทีละบริษัท สุดท้ายก็ลามเป็นลูกโซ่ หวังว่าหน่วยงานทางการของไทยที่ดูแลส่วนนี้ควรจะมองเห็น ผู้บริหารชุดใหม่น่าจะแลเห็น หรือเอะใจเข้าไปตรวจสอบ พร้อมปิดจุดอ่อนช่องว่างตรงนี้ก่อนลุกลามบานปลาย

*** ปิดท้ายงานสัมมนา สำหรับผู้ผลิตชิ้นงานที่ใช้เทคโนโยลีชุบสีเพื่อรักษาพื้นผิว (Surface Treatment ) โดยสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน ร่วมกับหอการค้าไทยในจีนและศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมชุบโลหะ จัดงาน “China-Thailand (Bangkok) Industrial Coating and Surface Treatment Technology” ในวันที่ 21 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00-17.30 น. โรงแรมพลูแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ

                       จุดอ่อนช่องว่างกับความไม่ปกติในตลาดหุ้นไทย