ซี.พี.แลนด์รุกพอร์ตรร. 5ปีโตเท่าตัว
นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร โรงแรมในเครือฟอร์จูน บริษัทซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 5 ปี (ปี 2563-2567) จากนี้ซี.พี.แลนด์ มีแผนลงทุนสร้างโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าครอบคลุมทุกภูมิภาค เนื่องจากโรงแรมเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ที่ดี และเป็นรายได้ระยะยาว ที่จะก้าวต่อไป
แผนลงทุน 5 ปี จะเพิ่มจำนวนห้องพักอีก 2,000 ห้อง หรือ 12-14 แห่ง เพื่อเพิ่มจำนวนโรงแรมจากปัจจุบัน 11 แห่งเป็น 24-25 แห่ง ภายใต้การลงทุนไม่ตํ่ากว่า 4,000 ล้านบาท มองทั้งการสร้างโรงแรมใหม่ และการซื้อโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว นำมาปรับปรุงใหม่ และบริหารในนามฟอร์จูน กรุ๊ป โดยมองทำเลลงทุนโรงแรม ในเมืองที่มีศักยภาพด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
โรงแรมใหม่ที่จะลงทุน จะมีทั้งโรงแรมระดับ 5 ดาว ในต่างจังหวัด ภายใต้แบรนด์แกรนด์ ฟอร์จูน ขนาดไม่ตํ่ากว่า 300 ห้อง ลงทุนห้องละ 5 ล้านบาท มีอย่างน้อย 3 แห่ง ลงทุนแห่งละราว 1,000 ล้านบาท ได้แก่ การลงทุนโรงแรมใน จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ อ.หาดใหญ่
นอกจากนั้นก็ยังมองการลงทุนโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ภายใต้แบรนด์ฟอร์จูน อาทิ โรงแรมฟอร์จูน ซี วิว จ.ระยอง จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า และมองการลงทุนโรงแรมระดับ 2-3 ดาว ภายใต้แบรนด์ฟอร์จูน ดี ซึ่งการลงทุนโรงแรมระดับ 3 ดาว จะอยู่ที่หลักล้านต้นๆต่อห้อง และอีกหลายโลเกชันที่อยู่ในแผนลงทุนโรงแรม อาทิ จ.สุราษฎร์ธานี จ.สมุทรสาคร และจ.บึงกาฬ รองรับการลงทุนสะพานข้ามแม่นํ้าโขงแห่งที่ 5 เชื่อมจากไทยไปลาว
พร้อมกันนี้ยังมีแผนจะสร้างโรงแรมขนาดไม่เกิน 200 ห้อง ใกล้กับโครงการนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี ที่มาบตาพุด เพื่อรองรับคนเข้ามาทำงานในพื้นที่นี้ ซึ่ง 1ใน 3 ของห้องพักจะรองรับกลุ่มลองสเตย์ โดยจะเริ่มสร้างโรงแรมได้ในปี 2564
“ที่ผ่านมาแม้ธุรกิจโรงแรมจะมีการแข่งขัน แต่เราเรียนรู้และแก้ปัญหาในธุรกิจนี้มานาน จากการเริ่มสร้างโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน เมื่อ 27 ปีก่อน จากนั้นก็ใช้เวลาเพียง 5 ปีกว่าก็เพิ่มมาเป็น 11 แห่ง ตอนนี้ถือว่าเราวิ่งได้แล้ว และมองว่าต่อไปก็จะขยายแบรนด์ฟอร์จูน กรุ๊ปไปรับบริหารโรงแรมให้คนอื่นได้ในอนาคต”
นายสุนทร กล่าวถึงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี (มาบตาพุด) บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ที่ ซี.พี.แลนด์ ซื้อที่ดินมากว่า 30 ปีแล้ว ในขณะนี้เพิ่งจะเริ่มขายที่ดินสร้างโรงงาน คาดว่าจะขายที่ได้ทั้งหมดและพัฒนาโครงการนิคมแล้วเสร็จภายใน 3ปีหรือปี 2565 ซึ่งที่ตั้งของนิคม อยู่ติดถนนหลัก 3 เส้น ใกล้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคในนิคม คาดว่าจะเริ่มสร้างได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งซี.พี.แลนด์ และทางจีน มีการลงทุนในโครงการนิคมแห่งนี้ไปแล้ว กว่า 6 พันล้านบาท แบ่งเป็นค่าที่ดิน 4 พันล้านบาท ลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานในโครงการ 2 พันล้านบาท จากวงเงินการลงทุนรวมในโครงการนี้ร่วมหมื่นล้านบาท
ปัจจุบันซี.พี.แลนด์ ดำเนินธุรกิจใน 7 ด้านได้แก่ ธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจที่พักอาศัย บ้าน คอนโดมิเนียม ,ธุรกิจอาคารสำนักงาน, ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี, ธุรกิจบริหารอาคาร, ธุรกิจพลังงานและศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น
ปีที่ผ่านมาซี.พี.แลนด์ มีรายได้ราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้กว่า 45% มาจากธุรกิจโรงแรม จากจำนวนโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน 11 แห่งใน 9 จังหวัด รวมจำนวนห้องพักกว่า 2,000 ห้อง ซึ่งที่ผ่านมาลงทุนไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างขยายการลงทุนโรงแรมใหม่ ตามแผนลงทุนในช่วง 5 ปีนี้ที่จะต้องลงทุนอีกไม่ตํ่ากว่า 4,000 ล้านบาท
รวมไปถึงการดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี ที่มาบตาพุด ซึ่ง ซี.พี.แลนด์ ร่วมลงทุนกับ บริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ปฯ (รัฐวิสาหกิจจากมณฑลหนานหนิง)ที่อยู่ระหว่างการเปิดขายที่ทำโรงงานในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาลตั้งจะทำโครงการแล้วเสร็จภายใน 3 ปี
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3501 วันที่ 1-4 กันยายน 2562
