นับถอยหลังวันที่ 31 ตุลาคมถึง 4 พฤศจิกายน 2562 ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดอาเซียน(อาเซียนซัมมิท) ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาอีก 8 ประเทศ(จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย)ในหลายเวที ซึ่งตลอด 5 วันเต็ม จะมีไฮไลต์อะไรเกิดขึ้นบ้างนั้น ดูได้จากไทม์ไลน์นี้
วันที่ 31 ตุลาคม
-การประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่ 17
-การลงนามโดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนในความตกลง 2 ฉบับ (ได้แก่ ความตกลงยอมรับร่วม(MRA) ผลการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วนของอาเซียน และพิธีสารว่าด้วยกลไกระงับข้อพิพาทของอาเซียนฉบับปรับปรุง)
-การประชุมเตรียมการคณะกรรมการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Prep-RCEP TNC)
วันที่ 1 พฤศจิกายน
-การประชุมเตรียมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนเพื่อเตรียมการก่อนการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคระดับรัฐมนตรี(AEM Caucus)
-การประชุมเตรียมการรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Prep-RCEP MM) เพื่อนำเสนอผู้นำออกแถลงการณ์ประกาศความสำเร็จของการเจรจาอาร์เซ็ป
วันที่ 2-4 พฤศจิกายน
-การประชุมสุดยอดอาเซียน และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
-การประชุม RCEP Summit ครั้งที่ 3
สำหรับไฮไลต์ด้านเศรษฐกิจในช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิทครั้งนี้ จะเป็นการประชุมครั้งใหญ่ที่สุดของไทยในฐานะประธานอาเซียนปี 2562 (ก่อนส่งไม้ต่อให้เวียดนามที่จะเป็นประธานอาเซียนในปี 2563)โดยผู้นำอาเซียนจะได้รับทราบความก้าวหน้าและความสำเร็จ รวมทั้งความพยายามผลักดันในประเด็นต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการรวมตัวกันของประชาคมอาเซียนในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนด้านเศรษฐกิจ ที่ประชุมจะรับทราบความคืบหน้าประเด็นด้านเศรษฐกิจที่ไทยผลักดันให้อาเซียนร่วมกันขับเคลื่อนให้บรรลุผลสำเร็จในปี 2562 ใน 3 ด้านรวม 13 ประเด็น อาทิ การสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(อาร์เซ็ป), การจัดทำแผนการดำเนินงานตามกรอบการบูรณาการด้านดิจิทัล และการจัดทำแนวทางการพัฒนาแรงงานมีทักษะ/ผู้ประกอบการวิชาชีพเพื่อรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เป็นต้น
ผู้นำจับมือหลังการประชุมอาเซียนซัมมิทครั้งที่ 34 ระหว่าง 22-23 มิ.ย.2562