ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว( 3 ม.ค.2563) ระบุว่า จีนเริ่มต้นปี 2020 ด้วยการประกาศใช้”กฎหมายการลงทุนสำหรับต่างชาติ” ฉบับใหม่ #ChinaForeignInvestmentLaw
กฎหมายนี้กำหนดกรอบขั้นพื้นฐานด้านการลงทุนของต่างชาติในจีน มี 6 ส่วนหลัก1) บทบัญญัติทั่วไป 2)การส่งเสริมการลงทุน 3) การคุ้มครองการลงทุน 4) การบริหารการลงทุน 5)ความรับผิดชอบด้านกฎหมาย 6) บทบัญญัติเพิ่มเติม (supplementary provisions)
กม.ฉบับนี้มี 42 มาตรา พัฒนา/ปรับประยุกต์มาจากการทดลอง/ทดสอบในเขตทดลองการค้าเสรี Free Trade Zone ต่างๆ ในจีน โดยคำนึงถึงบริบทของจีน !!!
ศาลประชาชนสูงสุดจีนยังประกาศคำชี้นำการให้บริการและสนับสนุนตามกฎหมายในการสร้างสรรค์ “BRI หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และ Shanghai Free Trade Zone นิคมใหม่เขตสาธิตการค้าเสรีนครเซี่ยงไฮ้
สถิติการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ( FDI) ในจีนช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2562 จีนมีบริษัททุนต่างชาติใหม่เปิดดำเนินการจำนวน 36,747 ราย มียอดการใช้ทุนต่างชาติของจีน 124,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโต 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน
ความเห็นของนักวิเคราะห์ต่างๆ ค่อนข้างตอบรับทางบวกในด้านต่างๆ เช่น
-กฎหมายนี้บ่งชี้ว่างานนิติบัญญัติของจีนพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
-กฎหมายนี้นี้สะท้อนสถานการณ์ใหม่ของจีนกับการเปิดประเทศและการดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก
-กฎหมายนี้ให้น้ำหนักต่อการส่งเสริมการลงทุนและการคุ้มครอง เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมการประกอบธุรกิจที่โปร่งใสและคาดการณ์ได้สำหรับวิสาหกิจต่างชาติที่มาลงทุนในจีน
-กฎหมายนี้สะท้อนว่า จีนมีก้าวที่สำคัญในการปรับปรุงรูปแบบการเปิดประเทศในเชิงระบบกฎเกณฑ์
ข้อสังเกต จีนได้เน้นแยก "กฎหมายการลงทุนสำหรับต่างชาติ” ฉบับใหม่ จากการบริหารจากกฎหมายกับกฎข้อบังคับหลายฉบับในอดีต และเชื่อมต่อกับระบบกฎหมายสากลให้มากขึ้น ทั้งนี้ จีนจะเน้นส่งเสริมบริษัทต่างชาติที่มีความเหนือกว่าด้านเทคโนโลยี หรือประสบการณ์บริหารจัดการระดับโลก ให้เข้ามาประกอบธุรกิจหรือเพิ่มการลงทุนในจีน
โดยสรุป นี่คือ การขยับเดินหน้าอีกก้าวของจีนในประเด็นการลงทุนของต่างชาติในจีน แล้วจะมีชาติใดออกมาโวยวายหรือหาเหตุโจมตีจีนอีกหรือไม่ รออ่านทวีตเตอร์นะคะ
ต่อเรื่อง “กฎหมายการลงทุนสำหรับต่างชาติ” ฉบับใหม่ของจีน ดร.อักษรศรี ให้ความเห็นกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จะทำให้บรรยากาศการลงทุนในจีนมีความเป็นสากลมากขึ้น โดยเฉพาะบทบัญญัติเรื่องการคุ้มครองการลงทุน น่าจะทำให้นักลงทุนไทยในจีนมั่นใจมากขึ้น
“จีนเน้นส่งเสริมบริษัทต่างชาติที่มีเทคโนโลยีหรือมีความก้าวหน้าทางนวัตกรรม ดังนั้นถ้าไทยมีแต่ธุรกิจ SMEs ที่เป็นธุรกิจทั่วไปจะเข้าไปลงทุนในจีน ก็ต้องเหนื่อยแน่ ต้องเจอสภาพการแข่งขันในจีนที่แสนจะดุเดือดเข้มข้นทั้งนี้ใครๆ ก็สนใจตลาดจีน ดังนั้นถ้าจะเข้าไปลงทุนในจีนให้อยู่รอดปลอดภัย ก็ต้องหาจุดแข็ง/จุดเด่นของธุรกิจของเราให้เจอและศึกษาข้อกฎหมายจีนให้มาก ที่สำคัญ คือ ภาษาจีนต้องสื่อสารได้ด้วย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชี้ 4 แหล่งสำคัญไม่ปิด ชาวกรุงไม่ต้องกลัวอด