นพ.ธนพล ทองประเสริฐ ผู้ก่อตั้ง ด็อกเตอร์ซีเคร็ต บาย ด็อกเตอร์ธนพล สถาบันดูแลสุขภาพและความงาม เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สถาบันร่วมกับไทย สเตมไลฟ์ ผู้ให้บริการธนาคารสเต็มเซลล์ แห่งแรกในประเทศไทยสร้างการรับรู้นวัตกรรมสเต็มเซลล์เพื่อใช้ในการฟื้นฟู ดูแลและรักษาโรคต่างๆ หลังจากที่วงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ทั่วโลกให้ความสำคัญ ศึกษา วิจัยและพัฒนามาต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันสเต็มเซลล์ได้รับการยอมรับว่าสามารถใช้ในการฟื้นฟูและรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับเลือดได้มากกว่า 85 โรค แบ่งออกเป็น โรคทางพันธุกรรมและโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง มะเร็งเม็ดเลือดขาว ฯลฯ โรคระบบเลือดทางพันธุกรรมผิดปกติ เช่น ธาลัสซีเมีย โรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ฯลฯ โรคทางพันธุกรรมในเมตาบอลิซึม โรคภูมิคุ้มกันไวเกิน เช่น โรคพุ่มพวง ฯลฯ ดังนั้นการนำสเต็มเซลล์มาดูแลสุขภาพจึงเป็นนวัตกรรมที่คนไทยจะต้องเรียนรู้และเป็นอีกทางเลือกในการนำมาใช้
“หลังจากประสบการณ์ในการศึกษา วิจัยและพัฒนาสเต็มเซลล์เพื่อสุขภาพและความงามในเมืองไทย มากว่า 6 ปี จนได้รับการยอมรับในแวดวงต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มดารา คนดัง เซเลบริตีระดับประเทศ ทั้งในการรักษาโรค การฟื้นฟูสุขภาพ โดยเฉพาะความเสื่อมในศาสตร์ของการชะลอความชรา (Anti Aging) และการฟื้นฟูความเสื่อมที่เกิดขึ้นแล้วให้ดีขึ้น (Regenerative Medicine) ด้วยนวัตกรรมการนำสเต็มเซลล์ของตัวเองมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้มองเห็นถึงความสำคัญของการจัดเก็บสเต็มเซลล์ตั้งแต่อายุยังน้อย สุขภาพแข็งแรง จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกับไทยสเตมไลฟ์”
โดยความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถพัฒนาและต่อยอด การเพาะเลี้ยงและจัดเก็บสเต็มเซลล์สำหรับแต่ละครอบครัว ได้อย่างครบถ้วน และสามารถนำไปใช้เมื่อยามจำเป็น อย่างไรก็ดี การให้บริการจัดเก็บสเต็มเซลล์ในประเทศไทยเกิดขึ้นตั้งแต่ 14 ปีก่อน โดยไทยสเตมไลฟ์ ซึ่งเป็นเอกชนรายแรกที่เปิดให้บริการธนาคารสเต็มเซลล์ ด้วยนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับและเป็นมาตรฐานสากล จนปัจจุบันมีครอบครัวมากกว่า 1.2 หมื่นครอบครัวที่ใช้บริการจัดเก็บ สเต็มเซลล์ แต่ด้วยเทคโนโลยีทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูง จึงจำกัดเฉพาะกลุ่ม แต่ปัจจุบันการจัดเก็บสเต็มเซลล์สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จึงมองเห็นเป็นโอกาสของคนไทยในการจัดเก็บและสามารถนำมาใช้ในการรักษาได้ทันทีเมื่อต้องการ
ด้าน ดร.นพ. คอนสแตนตินอส ไอ. ปาปาโดพูลอส ผู้จัดการใหญ่ และหัวหน้าฝ่ายการแพทย์ บริษัท ไทยสเตมไลฟ์ จำกัด กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ ไทยสเตมไลฟ์ ทั้งห้องปลอดเชื้อ Clean Room (Class 100) ซึ่งเทียบเท่ากับมาตรฐานห้องผ่าตัดหัวใจ ของโรงพยาบาลชั้นนำ ถังเก็บสเต็มเซลล์ที่อุณหภูมิ -196 C โดยใช้ไอไนโตรเจนเหลว ป้องกันการแพร่กระจายการปนเปื้อนของเชื้อ นวัตกรรมระบบ Sepax คัดแยกสเต็มเซลล์ แบบอัตโนมัติ และระบบ Close System ทำให้มั่นใจได้ว่าสเต็มเซลล์จะปลอดภัยปราศจากการปนเปื้อน
“จากจำนวนครอบครัวที่ใช้บริการเก็บสเต็มเซลล์กว่า 1.2 หมื่นครอบครัว มีลูกค้าเบิกสเต็มเซลล์ไปใช้จริงมากกว่า 50 ราย เพื่อนำไปใช้ในการรักษาโรคต่างๆ อาทิ การรักษาแผลเบาหวาน โรคระบบประสาทส่วนกลางเสียหาย โรคหัวใจ โรคข้อเข่าเสื่อม โรคสมองพิการตั้งแต่กำเนิด ฯลฯ”
หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,541 วันที่ 19 - 22 มกราคม 2563