วิกฤติโควิดเป็น “โกลบอล ไดนามิคส์” กระทบวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก ทั้งภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ขณะนี้และหลัง “ปลดล็อก” ที่รูปแบบการใช้ชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไป เพราะไม่มีใครระบุได้ชัดเจนว่า “ไวรัสโควิด” จะอยู่กับเราไปนานแค่ไหน เป็นโจทย์สำคัญของธุรกิจในการสร้างมาตรการและแนวทางเพื่อ “รับมือ” ให้สามารถอยู่ร่วมกับเชื้อโรคดังกล่าวได้จริง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจเดินหน้าได้ด้วยความมั่นใจว่าปลอดภัย
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล เซ็นทรัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สามารถประเมินได้ว่าวิกฤติโควิดจะคลี่คลายอย่างไร และต้องอยู่กับโรคนี้นานแค่ไหน ภารกิจสำคัญของภาคเอกชนในฐานะที่ซีพีเอ็นเป็นผู้นำธุรกิจศูนย์การค้าในประเทศไทยมีหน้าที่สร้างมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจโดยเฉพาะหลังโควิดที่เชื่อว่าพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เป็นที่มาของแผนแม่บท "เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ" ครอบคลุม 5 แกนหลัก กว่า 75 มาตรการ ซึ่งจะส่งเสริมให้เป็นแผนแม่บทค้าปลีกไทย สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับสังคมตาม “New Lifestyle New Normal” หากจำเป็นต้องมาใช้บริการที่ศูนย์การค้ามั่นใจได้กับมาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัยสูงสุด
"เรามีหน้าที่สร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้ปฎิบัติได้จริง ทั้งร้านค้า ลูกค้า เป็นการเตรียมความพร้อมสูงสุดรองรับการกลับมาเปิดบริการในทันทีเมื่อมีการประกาศจากภาครัฐ"
สำหรับการเปิดบริการศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าประเภทต่างๆ นั้น รัฐจะเป็นผู้กำหนดซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทางด้านความปลอดภัยให้มากที่สุด ถือเป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนธุรกิจที่สำคัญในช่วง 2 ปีจากนี้ทีเดียว
พลังบวก "รี-สตาร์ท" ประเทศไทย
อย่างไรก็ตามในช่วงกว่า 40 วันของการเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น เชื่อว่าทำให้ทุกภาคส่วนได้เรียนรู้แนวทางการตั้งรับและแนวทางที่จะก้าวข้ามวิกฤติ นั่นคือ วินัย ความสะอาด ความปลอดภัย ที่จะต้องพร้อมใจปฎิบัติร่วมกัน
“เราต้องสร้างพลังบวกในทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันรีสตาร์ทประเทศไทย ซึ่งภาครัฐทำในภาพใหญ่เชิงมหภาค บาลานซ์วงล้อเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความปลอดภัย ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ มีบทบาทกำหนดมาตรฐานใหม่ดูแลอุตสาหกรรม และในความสำเร็จนี้สำคัญที่ภาคประชาชน ต้องช่วยกันปฎิบัติ สร้างวินัย เคารพสิทธิ์ของทุกคน ด้วยการใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม”
ทั้งนี้ ซีพีเอ็น มีพนักงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1.6 แสนคน ขณะที่อุตสาหกรรมค้าปลีกมีแรงงานมากกว่า 4 ล้านคน ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยใน 5 แกนหลัก คัดกรองอย่างเข้มงวด, Social Distancing, การติดตามเพื่อความปลอดภัย, ใส่ใจความสะอาดทุกจุดสัมผัส และ ลดการสัมผัส จะสร้างพลังในการขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี
ชู "นครศรีธรรมราช" ต้นแบบแผนแม่บท
ทั้งนี้ แผนแม่บท “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ได้เริ่มให้ร้านค้าในเครือข่ายศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศเตรียมความพร้อม โดยมี เซ็นทรัล พลาซา นครศรีธรรมราช เป็นต้นแบบของการปฎิบัติตามแผนแม่บท หลังจากเปิดบริการตั้งแต่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีลูกค้ากลับมาใช้บริการราว 25% ของผู้มาใช้บริการปกติ
ในส่วนธุรกิจในเครือเซ็นทรัลอย่างโรบินสันมีสาขาต้นแบบ ที่สระบุรี, ฉะเชิงเทรา, จันทบุรี และนครศรีธรรมราช อีกด้วย
ใช้ "ไอที-นวัตกรรม" หนุนปลอดภัย
นางสาววัลยา ยกตัวอย่าง หนึ่งในการคัดกรองอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)จำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์การค้าไม่เกิน 1 คน ต่อ 5 ตร.ม. หากเฉลี่ยพื้นที่ศูนย์การค้าขนาดกลาง 1 แสนตร.ม. จะมีลูกค้าหมุนเวียนไม่เกิน 20,000 คน เพื่อให้เกิดการกระจายตัวได้มากที่สุด
นอกจากนี้ อีกมาตรการสำคัญ คือ การติดตามเพื่อความปลอดภัย (Safety Tracking) ที่จะมีการ Tracking ข้อมูลสุขภาพ และการเดินทางของพนักงานในศูนย์และร้านค้าย้อนหลัง 14 วัน และมีแบบฟอร์มให้กรอกก่อนเปิดศูนย์และทุกวันก่อนเริ่มงาน โดยอาหารซื้อกลับบ้าน (Takeaway) ทุกกล่อง ต้องระบุข้อมูลชื่อร้าน สาขา และเวลา พร้อมชื่อและอุณหภูมิของผู้ประกอบอาหารติดบนกล่องอาหาร
ขณะที่มาตรการความสะอาดนอกเหนือจากเจลล้างมือ สเปรย์ฆ่าเชื้อ ฯลฯ ซีพีเอ็นได้มีการติดตั้งพรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อโรคบริเวณทางเข้า ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจอีกระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันในทุกๆ จุดของพื้นที่ศูนย์การค้าจะมีป้ายเตือนเป็นระยะในการปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย
"การใช้ชีวิตแบบใหม่ ลูกค้าอาจยังไม่คุ้นชิน เราต้องดับเบิ้ลโพรเทคให้ได้มากที่สุด”
หวั่นร้านค้าสายป่านสั้นสะดุด
นางสาววัลยา กล่าวต่อว่า สถานการณ์โควิดซึ่งส่งผลกระทบต่อร้านค้าภายในศูนย์ต้องปิดบริการนั้น ได้มีมาตรการช่วยเหลือทางด้านค่าเช่า ตั้งแต่ 25-100%
"ห้วงเวลาจากนี้เชื่อว่าไม่มีใครคาดหวังว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม ดังนั้นเราคงไม่มีวันเก็บค่าเช่าได้เหมือนเดิมจนกว่าร้านค้าจะขายดีเหมือนเดิม"
ผู้ประกอบการร้านค้าแต่ละรายมีกระแสเงินสดในระดับ 1-2 เดือน ไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งเป็นปัจจัยที่น่าห่วงอย่างมากว่าภาครัฐจะบาลานซ์ความปลอดภัย เศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนชาวไทยอย่างไร
ยึดแผนลงทุนเดิมเปิด 3 ศูนย์ปีหน้า
อย่างไรก็ดี ซีพีเอ็น ยังคงมุ่งขยายการลงทุนต่อเนื่องตามแผนระยะยาว โดยปีหน้ามีกำหนดเปิดให้บริการศูนย์การค้าเซ็นทรัล สาขาพระนครศรีอยุธยา ศรีราชา และจันทบุรี โดย 2 สาขาหลังเป็นไปตามยุทธศาสตร์การขยายโอกาสรับเมืองเศรษฐกิจอีอีซี
ส่วนในปี 2563 ซีพีเอ็นไม่มีแผนการเปิดบริการศูนย์การค้าใหม่แต่อย่างใด