วันที่ 4 พ.ค. 63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ช่วงวันหยดยาวตนไม่ได้ไปไหนและไม่ได้กลับไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนสุโขทัย เนื่องจากอยู่ในช่วง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ช่วงเช้ามีโอกาสตักบาตรพระหน้าบ้าน ต่อด้วยตัดผมกับ "อนงค์วรรณ บาร์เบอร์"
และเมื่อมีเวลาว่างทำให้คิดถึงงานเก่าๆ นโยบายเก่าๆ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับงานใหม่นโยบายใหม่แต่ต่างกระทรวงกันก็ดูมีความสุขดี ได้ใช้เวลาดูเอกสาร อ่านหนังสือจนผ่านไปเกือบครึ่งวัน เริ่มรู้สึกหิวข้าว จึงไปเก็บถั่วฝักยาวสดๆ จากแปลงผักที่ปลูกไว้ในบ้านไปทำผัดไทย มั่นใจรสชาติหวานอร่อยแน่นอน และนึกชื่นชมคุณอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภรรยาที่เตรียมพร้อมสำหรับการกักตัวตามนโยบายของรัฐบาลดีจริงๆ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้นึกย้อนคิดถึงเรื่องนโยบายเก่าๆ นึกเสียดายอยู่หลายรื่องที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะการทำนโยบายจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้นำรัฐบาล เช่น นโยบายโคล้านตัวที่ตนคิดริเริ่ม เป็นอันต้องหยุดชะงักเพราะผู้นำรัฐบาลในยุคสมัยนั้นไม่เห็นด้วย คิดคำนวณเล่นๆ ถ้าเริ่มนโยบาย "โคล้านตัว" ตั้งแต่ 14 ปีที่แล้ว วันนี้เกษตรกรคงลืมตาอ้าปาก ไม่เป็นหนี้เหมือนทุกวันนี้
อีกเรื่องหนึ่งไม่น่าเชื่อว่า การก่อสร้างสนามบินสุวรณภูมิ ที่ผู้นำรัฐบาลในขณะนั้นจะให้ยกเลิกโครงการและยกเลิกสัญญา แต่ถูกต้านอย่างหนัก ขณะนั้น ตนดำรงตำแหน่ง รมช.คมนาคม หากไม่ดึงดันทำคงจะเป็นจุดอ่อนของประเทศในวันนี้ไปแล้ว เพราะไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เต็มจำนวนตามที่คาดการณ์ไว้
เมื่อพูดตรงนี้ กระทรวงยุติธรรมมีนโยบายในการทำงานอยู่หลายเรื่อง แต่ที่เราได้ดำเนินการไปบ้างแล้วในตอนนี้ เช่น 1. นโยบายเช่ากำไลข้อเท้า EM ติดตามตัวผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 2.นโยบายสร้างห้องกักเชื้อ ป้องกันโรคโควิด-19 ในเรือนจำ 3.นโยบายสร้างเรือนนอน 2 ชั้น เพื่อลดความแออัด 4.นโยบาย "ศูนย์ยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด"
และ5. นโยบายปราบการสมยอมราคา (ฮั้วประมูล) ตนมั่นใจมากว่านโยบายที่ตนคิดเหล่านี้เป็นนโยบายที่ดี เกิดประโยชน์ส่วนรวม และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้การสนับสนุน ให้ข้อเสนอแนะและติดตามสั่งการให้เป็นรูปธรรมอีกดัวย
"ผมเชื่อมั่นว่า กระทรวงยุติธรรมมีผลงานอย่างต่อเนื่องและเป็นที่ประทับใจของประชาชนอย่างแน่นอน แต่อีกด้านหนึ่งยังมีผู้คนบ่นรัฐบาล ผมขอเรียนให้ทุกท่านรับทราบว่า ท่านนายกฯ ได้แต่งตั้งรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเพื่อรับผิดชอบดูแลงาน ผมอยากให้คนที่ชอบบ่นรัฐบาล ช่วยเปิดใจดูผลงานให้ลึกลงไปถึงแก่นแท้ของเนื้องาน หากรัฐมนตรีไม่มีแนวคิด ไม่ผลักดันนโยบายเพื่อสนับสนุนกระบวนการนโยบายหลักของรัฐบาลได้ ก็ต้องดูเอา และนั่นแหละคือการเปิดโอกาสให้คนทำงานได้เข้ามามีบทบาท ทำงานสนองนโยบายของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่
และผมเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนที่เปิดโอกาส และสนับสนุนคนทำงาน เมื่อสถานการณ์โรคโควิด-19 จบลง คงได้เห็นนโยบายดีๆ ของหลายๆกระทรวงโดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรมซึ่งมีผมเป็นรัฐมนตรี รับรองมีดีให้ดูแน่นอน"