31 พค. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปราย พรก.3 ฉบับ เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยตั้งแต่วันพุธที่27พค.ที่ผ่านมาจนมาถึงวันนี้ (31พค.) บรรยากาศการอภิปรายเป็นไปด้วยดี ซึ่งขอบคุณฝ่ายค้าน ที่อภิปรายเป็นไปในทางสร้างสรรค์ มีความห่วงใยรัฐบาลในการใช้งบประมาณ สิ่งที่ดีมีประโยชน์รัฐบาลพร้อมนำไปปฎิบัติ แต่ก็ยังมีสส.บางท่านที่ยังอภิปรายทำให้ประชาชนสับสนและข้อมูลที่คลาดเคลื่อน รัฐบาลจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนเข้าใจว่าพรก.เงินกู้นี้เจตนาพุ่งเป้าเพื่อเยียวยาวิกฤตโควิดให้ประชาชนอย่างแท้จริง
นายสุภรณ์กล่าวต่อว่า "หากฝ่ายค้านได้รับฟังการชี้แจงของนายกฯเมื่อวานนี้(30พค.)จะเห็นถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน นายกมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ ไม่เคยคิดอยากที่จะกู้เงินให้เป็นภาระ ถ้าสถานการณ์ประเทศอยู่ในภาวะปกติ แต่วิกฤตโควิดได้เกิดขึ้นทั่วโลกมีปัญหาเกือบทุกประเทศ ต้องฝ่าฟันก้าวผ่านไปให้ได้ เป็นความจำเป็นที่หนักหน่วงของประเทศ จึงจำเป็นต้องออก พรก.กู้เงิน
หากไม่เกิดการแพร่ระบาด นายกฯก็คงไม่ต้องกู้เงิน เพราะนายกฯไม่เคยคิดที่อยากจะสร้างหนี้ให้เกิดขึ้น แต่นี่เป็นวิกฤตที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศเข้าใจรัฐบาลว่ามีความจำเป็นจริงๆ ไม่งั้นประชาชนจะเดือดร้อนมากกว่านี้อย่างแน่นอน จึงทำให้ประชาชนเข้าใจนายกฯและรัฐบาล
โดยตาม พรก.กู้เงินนั้นย้ำว่า เป็นการกู้เงินจำนวน 1 ล้านล้านบาทเท่านั้น แต่เงินอีก 9 แสนล้านบาท เป็นแนววิธีการของธนาคารแห่งประเทศไทย บางครั้งสส.ฝ่ายค้านบางคนได้อภิปรายแบบแกล้งโง่ให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกู้1.9 ล้านล้านบาท เพื่อให้ประชาชนเข้าใจรัฐบาลผิดว่าทำไมต้องกู้เยอะมากเพียงนั้น ต้องขอยืนยันให้เข้าใจตรงกันย้ำอีกครั้งนะครับว่า กู้1ล้านล้านบาทเท่านั้น
พร้อมกันนี้ยังยืนยันงบประมาณดังกล่าวได้นำไปใช้ในด้านสาธารณสุข การฟื้นฟูประเทศ และเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ในทุกกลุ่มโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนคนไหนหรือกลุ่มไหน อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันก็ต้องขอร้องฝ่ายค้านอย่ากังวลว่าการใช้งบประมาณนั้นจะเกิดการทุจริต เพราะสามารถตรวจสอบได้ และนายกฯ ย้ำอยู่เสมอที่จะเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการทุจริต จะไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนรัฐบาลในอดีตที่ผ่านๆมาอย่างเด็ดขาด
นายสุภรณ์ ระบุว่า เข้าใจเจตนาของฝ่ายค้านที่มีความกังวลในเรื่องของการใช้งบประมาณ แต่ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ ที่มีความตั้งใจเข้ามาแก้ไขปัญหา และเอาจริงกับการปราบปรามการทุจริต เพราะนายกฯย้ำเสมอตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศว่าพร้อมที่จะตรวจสอบการทุจริตอย่างเฉียบขาดและหากฝ่ายค้านมีหลักฐานการทุจริตก็ขอให้นำมาให้ด้วยนายกฯจะตรวจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด" นายสุภรณ์กล่าว