นางสาวภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ ลาซาด้ายังคงเดินหน้าเปิดตัวแคมเปญและบริการต่างๆ ภายใต้กลยุทธ์ Shoppertainment Strategy โดยความต้องการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภค แสดงให้เห็นว่าอีคอมเมิร์ซได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานสำหรับยุค ‘New Normal’ ซึ่งจะเห็นร้านค้าออฟไลน์และห้างสรรพสินค้าเริ่มกลับมาเปิดทำการอีกครั้งด้วยมาตรการที่เริ่มผ่อนคลายลง และเห็นร้านค้าออฟไลน์มีทั้งลูกค้าที่กลับมาใช้บริการที่ร้านและยังมียอดขายจากช่องทางออนไลน์มาเป็นตัวเสริม ชี้ให้เห็นชัดว่าธุรกิจต่างๆ สามารถขยายช่องทางการสร้างรายได้มาสู่ช่องทางออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจแม้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวน
ทั้งนี้ลาซาด้าจะยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนแบรนด์และผู้ขายผ่านเทศกาลช้อปปี้งในแคมเปญต่างๆ ที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายทางออนไลน์ด้วยดีลและโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดใจ พร้อมส่งมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ และความปลอดภัยให้แก่นักช็อป
“กระแสตอบรับจากแคมเปญ Mid-Year Super Sale หรือ LazLive in-app Livestreaming ที่เพิ่งผ่านไปประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หรือกลยุทธ์ free shipping ที่เราทำไปก่อนหน้านี้ก็ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอดจนถึงปัจจุบัน หลังจากโควิดเราเตรียมปล่อยแคมเปญย่อยอาทิ Shop Marathorn, 7.7 เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายตลอดทั้งปี ไม่เพียงแต่ผู้ซื้อจะได้ประโยชน์จากดีลและสินค้าที่ดีที่สุด ในด้านของผู้ขายและแบรนด์บนแพลตฟอร์มยังได้ประโยชน์จากแคมเปญส่งเสริมการขาย นอกจากนี้ในอนาคตเรายังมีแผนที่จะนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การซื้อสินค้าอีกมากมาย”
สำหรับเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์กลางปี ภายใต้แคมเปญ “Lazada Mid-Year Super Sale” ระหว่างวันที่ 18 – 19 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 280% ต่อวัน เมื่อเทียบกับวันปกติในช่วงสามสัปดาห์ก่อนวันแคมเปญ ยอดคำสั่งซื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่า 50 เท่าภายใน 1 ชั่วโมงแรก เมื่อเทียบกับชั่วโมงแรกของวันปกติ และเป็นคำสั่งซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงกว่า 40,000 ชิ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศึกชิงตลาดอี-คอมเมิร์ซ 2.2 แสนล้าน รับ New Normal
ด้านนางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ ประเทศไทย กล่าวว่า “ ‘ช้อปปี้’ ตระหนักเป็นอย่างดีถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมให้กับทุกภาคส่วนรับความปกติใหม่หรือนิวนอร์มัล โดยได้ศึกษาพฤติกรรมเชิงลึกของผู้ใช้งานและพบว่าผู้ซื้อมีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ 3 หมวดหมู่สินค้า ประกอบด้วย 1.ผู้ใช้แห่ช้อปสินค้าอาหารบนช่องทางออนไลน์เป็นหลัก โดยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาช้อปปี้พบว่ามีนักช้อปที่จับจ่ายสินค้าอาหารบ่อยครั้งในหนึ่งเดือนเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า สินค้าอย่างขนมปัง และเบเกอรี่ที่มียอดคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นถึง 15 เท่าในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา
2.ชาวไทยนิยมช้อปสินค้าเครื่องใช้ในบ้านและอุปกรณ์ทำสวนออนไลน์ หลายเดือนที่ผ่านมาผู้ใช้งานมีความต้องการช้อปสินค้าเครื่องใช้ในบ้านเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่อุปกรณ์ทำสวนปลูกต้นไม้ เติบโตเฉลี่ย 100 เท่า ในหลายเดือนที่ผ่านมา และ 3.สายแฟออนไลน์ช้อปไอเท็มเสื้อผ้าแฟชั่นหลากหลายกับช้อปปี้ โดยคนไทยเข้ามาบนช่องทางออนไลน์เพื่อมองหาสินค้าแฟชั่น โดยยอดออเดอร์สินค้าแฟชั่นอย่างชุดนอนเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าในหลายเดือนที่ผ่านมา
ในขณะที่ผู้ขายและแบรนด์มีความตื่นตัวในการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ผ่านการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์และเครื่องมือต่างๆ บนแพลตฟอร์มช้อปปี้ เพื่อขยายฐานลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย และเพื่อเป็นการตอบสนองต่อกระแสนิยมช้อปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ‘ช้อปปี้’ จึงได้เปิดตัวแคมเปญ ‘Shopee 7.7 Mid Year Sale’ เทศกาลช้อปกลางปีที่มาพร้อมกับดีลสุดพิเศษทั้ง แจกโค้ดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำเที่ยงวันและเที่ยงคืน และส่วนลด 50% ทั้งแคมเปญ โดยต้องการมุ่งเน้นย้ำถึงการเดินหน้านำเสนอกิจกรรมทางการตลาดรูปแบบใหม่ๆ เพื่อยกระดับตลาดอีคอมเมิร์ซของเมืองไทย