วุฒิศักดิ์ คลินิก เจ้าของสโลแกน “เพราะความสวยรอไม่ได้” ถือเป็นผู้บุกเบิก “คลินิกความงาม” ให้สาวๆ หนุ่มๆ ทุกชนชั้น สามารถสวยหน้าเด้ง ดูดีเทียบ K-pop การเติบโตอย่างรวดเร็ว กลับต้องสะดุด ก้าวสู่ภาวะขาดทุน และล่าสุดกับการยื่นศาลฯขอฟื้นฟูกิจการ หลังประกาศล้มละลาย เป็นหนี้สินกว่า 10 ล้านบาท
“วุฒิศักดิ์ คลินิก” เริ่มเปิดตัวเข้าสู่วงการธุรกิจคลินิกเสริมความงามและผิวพรรณ เมื่อปี 2544 โดย 3 ผู้ก่อตั้งได้แก่ นายแพทย์วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช, นายพลภัทร จันทรวิเมลือง และนายณกรณ์ กรณ์หิรัญ ถือเป็นผู้บุกเบิกในการทำการตลาด และสร้างแบรนด์คลินิกแบบครบวงจร ผ่านสื่อหลักทุกช่องทาง รวมถึงเป็นรายแรกๆ ที่นำเอา ศิลปินดาราฮอต มาเป็นพรีเซนเตอร์
“เพราะความสวยรอไม่ได้” สาวแท้ สาวเทียม หนุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ต่างพาเหรดเข้าใช้บริการ แม้จะต้องจองคิวล่วงหน้านานนับสัปดาห์ และยังต้องรอคิวนานครึ่งค่อนวัน แต่ก็ “รอ” ได้เพื่อ “ความสวย”
เพียงระยะเวลาแค่ไม่กี่ปี “วุฒิศักดิ์คลินิก” สยายปีกครบคลุมทั่วประเทศกว่า 100 สาขา ก่อนที่จะเริ่มก้าวสู่อินเตอร์ฯ ด้วยการขยายสาขาไปยังสปป.ลาว , กัมพูชา , เวียดนาม และเมียนมา ด้วยจุดเด่นของวุฒิศักดิ์คลินิก ที่มุ่งเน้นการบริการความงาม ด้วยนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้เติบโตและทำรายได้กว่า 3,000ล้านบาท ถือเป็นผู้นำในธุรกิจคลินิกความงามฯด้วยส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 60%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่องการเงิน "วุฒิศักดิ์ คลินิก" ก่อนยื่นศาลล้มละลาย ขอฟื้นฟูกิจการ
"วุฒิศักดิ์ คลินิก" ยื่นศาลฯขอฟื้นฟูกิจการ หลังแบกหนี้กว่า 10 ล้านบาท
เส้นทางของ “วุฒิศักดิ์ คลินิก” น่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะมีกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศหลายรายที่สนใจเข้าร่วมหุ้น และบางรายถึงขั้นเข้าซื้อกิจการ แต่ทีมผู้ก่อตั้งก็เลือกที่จะเดินหน้าต่อ ด้วยการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจ ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. วุฒิศักดิ์ คอสเมติกอินเตอร์ (WCI) จำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงาม เครื่องสำอางและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ 2. วุฒิศักดิ์ ฟาร์มาซีอินเตอร์ (WPI) ขายอาหารเสริม 3. ดับบลิว เวลเนส อินเตอร์ (WWI) ธุรกิจสถาบันฝึกอบรม และ 4. ดับบลิว.เอส.เซอร์จีรี่ 2014 (WSS) ทำศัลยกรรมพลาสติกและตกแต่ง (ปิดกิจการไปแล้ว) เพื่อเดินหน้าขยายธุรกิจและเสริมแกร่งด้านการเงิน
การเป็น “ดาวรุ่ง”ของวุฒิศักดิ์ คลินิก ทำให้ “EFORL” หรือ อี ฟอร์ แอล เอ็ม ตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์รายใหญ่ ทุ่มเงินก้อนโตเข้าซื้อหุ้นทั้งหมด โดยตั้งเป้าที่จะนำทัพวุฒิศักดิ์ คลิกนิก ไปสยายปีกใน AEC แต่หลังจากนั้นไม่นานผลประกอบการของ“วุฒิศักดิ์ คลินิก” กลับถดถอยลงต่อเนื่อง และพบกับคำว่า “ขาดทุน”
โดยตัวเลขตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า ปี 2558 มีรายได้รวม 4,530 ล้านบาท มีกำไร 210 ล้านบาท , ปี 2559 มีรายได้รวม 3,754 ล้านบาท ขาดทุน 614 ล้านบาท , ปี 2560 มีรายได้รวม 2,509 ล้านบาท ขาดทุน 1,163 ล้านบาท, ปี 2561 มีรายได้รวม 2,398 ล้านบาท ขาดทุน 166 ล้านบาท
หากเจาะลึกลงไป จะพบว่า ธุรกิจที่มีปัญหาคือ “ธุรกิจความงาม” เพราะการเร่งสปีดขยายสาขาผ่านแฟรนไชส์ ทำให้ไม่สามารถควบคุมทั้งคุณภาพ ต้นทุน และการบริหารจัดการได้ ซึ่งพบว่า รายได้ลดลงอย่างน่าตกใจ ควบคู่กับการทยอยปิดตัวสาขาทั้งในไทยและต่างประเทศ ชื่อของวุฒิศักดิ์ คลินิกค่อยๆ เงียบหายไป พร้อมๆ กับรายได้ที่ถอยลงๆ จากที่เคยมีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท ก็ลดลงเหลือเพียงไม่ถึง 500 ล้านบาท ตรงข้ามกับธุรกิจคลินิกความงามและผิวพรรณ ที่เติบโตทะยานพุ่งสูงขึ้นๆ
แต่ใช่ว่าทีมผู้ก่อตั้งจะถอดใจ เพราะพยายามดิ้นรนสร้างให้ “วุฒิศักดิ์ คลินิก” กลับมาอีกครั้ง โดยอาศัยมืออาชีพ เข้ามาบริหาร และในปลายปี 2561 ก็ได้ CEO ใหม่ “กวิน สัณฑกุล” อดีตผู้บริหารมือดีของ “เทสโก้ โลตัส” มานั่งคุมบังเหียน
การคัมแบคของ “วุฒิศักดิ์ คลินิก” ย่อมกลับมาแบบไม่ธรรมดา
ครั้งนี้ “กวิน” วางเป้าหมายให้ “วุฒิศักดิ์ คลินิก” มีรายได้ 500 ล้านบาท และไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี โดยจะเดินหน้าใน 5 ธุรกิจ คือ 1.ศัลยกรรมความงามที่ร่วมกับกลุ่มทุนเกาหลี 2. เมดิคัล แฮร์ ซาลอน 3. คลินิกความงาม (รีโนเวตและอัพเกรด) 4. สินค้าสุขภาพและความงาม และ 5. สถาบันฝึกอบรมบุคลากร
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เริ่มมองเห็นรำไร แต่เพียงชั่วระยะเวลาปีเศษ ล่าสุด “วุฒิศักดิ์ คลินิก” ก็ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ โดยระบุว่า มีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นหนี้เจ้าหนี้ไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท แต่กิจการของลูกหนี้ยังมีเหตุอันควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้ โดยศาลฯ นัดไต่สวน วันที่ 31 สิงหาคมนี้