คนเก่งเศรษฐกิจ
โดดหนี “ลุงตู่”
+++ ถึงกับออกมายอมรับว่า “หาคนยาก” เลยทีเดียว สำหรับ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต่อกรณีที่ได้ไปทาบทามหลายให้คนมาร่วม “ทีมเศรษฐกิจ” ของรัฐบาล แต่ก็ “โดดหนี” กันไป
+++ “ในการทาบทามบุคคลต่างๆ ไปนั้น ก็ต้องให้เวลา เขาต้องมีเวลาในการคิด และยืนยันว่าขั้นตอนจนถึงวันนี้ยังไม่ทำอะไรเลย ไม่ว่าการกรอกคุณสมบัติหรืออะไรก็ตาม วันนี้ผมแค่ติดต่อ พร้อมถามว่ายินดีที่จะมาร่วมกันทำงานไหม ซึ่งหลายคนก็บอกว่า “บ๊ายบาย” อยากช่วยนายกฯ แต่ขออยู่ข้างหลัง ...หลายคนที่ติดต่อไป บางคนก็ตอบมาแล้ว บางคนยังไม่ตอบ บางคนขอกลับไปถามครอบครัวก่อน สำคัญที่ครอบครัวเป็นหลัก" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
+++ นายกฯ ระบุว่า ได้มีการทาบทาม นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาร่วมงานแล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธ เนื่องจากครอบครัวไม่อนุญาต
+++ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ายังจำเป็นต้องมีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ในเมื่อนายกฯ เป็นฝ่ายเศรษฐกิจแล้ว นายกฯ ก็ต้องดูแลทุกกระทรวง อะไรที่มีรายได้นายกฯ สั่งการได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมาหารือกัน ซึ่งต้องเข้าใจว่าเมื่อก่อนนี้มันต่างกันที่เศรษฐกิจมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้คุม ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มีจากการจัดตั้งเป็นกรณีพิเศษ ท่านก็สามารถจัดการประชุมและสั่งการได้ทุกกระทรวง แต่วันนี้กระทรวงเศรษฐกิจหลายกระทรวงไปอยู่ในสัดส่วนพรรคร่วมรัฐบาล แต่ผมเป็นผู้คุมทั้งหมด
+++ ดังนั้นเมื่อนายกฯ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ไม่ใช่ว่าผมเก่งเศรษฐศาสตร์หรือเก่งด้านอะไร แต่ผมต้องการเอาทุกอย่างมาพิจารณาและวิเคราะห์ ศึกษา และปรึกษากับที่ปรึกษา ที่มีหลายภาคส่วนด้วยกัน วันนี้ทั้งหมดเราต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จำเป็นต้องเอาคนที่มีความรู้มาเสริมด้วย จะได้เหมาะกับห้วงเวลานี้”
+++ นายกฯ ยอมรับว่า ได้ทาบทาม นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย แต่ก็ต้องรอดูว่าจะตอบรับมาว่าอย่างไร ต้องรอก่อน ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีชื่อ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาฯสภาพัฒน์ แน่นอน และ นายทศพร ก็ไม่ได้อยากจะมา วันนี้ท่านต้องช่วยงานตน เพราะเป็นข้าราชการอยู่
+++ ก็ “เศรษฐกิจ” ที่รอการแก้ไขอยู่ข้างหน้า มันหนักหนาสาหัสไม่รู้ในรอบกี่ปี ก็เป็นธรรมดาที่ “หลายคน” จะโดดหนี เพราะคงไม่มีใคร อยากเอาฝีมือ ชื่อเสียง ที่สั่งสมมา มา “เสียคน” ตอนแก่นั่นเอง...