ILM ครึ่งปีปิด 2 เดือน ยังทำกำไร 132 ล้าน

07 ส.ค. 2563 | 05:05 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2563 | 12:11 น.

ILM แจงผลงานครึ่งแรกปี 2563 ทำรายได้รวมกว่า 4,000 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 44.1% หลังใช้กลยุทธ์ปรับ Product Mix เพื่อรับมือ COVID-19 ในขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังสดใส ย้ำยังคุมเข้มค่าใช้จ่าย-ลดสินค้าคงคลังต่อเนื่อง หนุนขีดความสามารถการทำกำไรดีขึ้น

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,080 ล้านบาท ปรับลดลง 16.3% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังไตรมาส 2/2563 ทำได้ 1,853 ล้านบาท ลดลง 23.6% เนื่องจากบริษัทฯ ต้องปิดสาขาไปเกือบ 2 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 16 พฤษภาคม 2563 จากการประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์ประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศหยุดชะงัก

​บริษัทฯ ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในครึ่งแรกของปี 2563 ไว้ได้ในระดับสูงที่ 44.1% ปรับเพิ่มขึ้นจาก 44.0% ในช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากได้มีการใช้กลยุทธ์ปรับ Product Mix เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายและอัตรากำไรที่สูงขึ้น ในขณะที่สินค้าหมวดโต๊ะเก้าอี้สำนักงาน (Home Office) และหมวดของตกแต่งบ้านตลอดจนอุปกรณ์จัดเก็บ เป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้น หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งส่งผลให้มีการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) เพิ่มขึ้น รวมถึงผู้บริโภคมีพฤติกรรมหันมาให้ความสนใจกับการตกแต่งบ้านมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้เดินหน้าควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารงาน(SG&A) ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,515 ล้านบาท ลดลง 15.0% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากไตรมาส 2/2563 ค่าใช้จ่ายลดลงประมาณ 20% อยู่ที่ราว 707 ล้านบาท และกำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 132.7 ล้านบาท จากกำไรในไตรมาส 2 ที่ 14.5 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังสามารถทำกำไรในไตรมาส 2/2563 ได้ แม้ต้องปิดสาขาไปร่วม 2 เดือน จากแรงหนุนของยอดขายออนไลน์และโครงการที่อยู่อาศัยที่เติบโตได้อย่างโดดเด่น 375.1% และ 69.4% YoY ตามลำดับ 

 

​บริษัทฯ มีความมั่นใจในภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2563 ว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบจากครึ่งปีแรกตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น หลังรัฐบาลคลายล็อคมาตรการคุมเข้มCOVID-19 รวมถึงทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ในขณะที่บริษัทฯ เตรียมเพิ่มหมวดสินค้าและเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ๆ รวมไปถึงการขยายความร่วมมือกับพันธมิตร ควบคู่ไปกับการเดินหน้าลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และสินค้าคงคลังอย่างต่อเนื่อง

ภาพเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังบริษัทฯ ประเมินว่า มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทยอยกลับมาคึกคักแต่ขณะเดียวกันปัจจัยเสี่ยงด้านลบก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงมาก ดังนั้นบริษัทฯ จึงยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อผลักดันขีดความสามารถการทำกำไรให้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง