นายปตินันต์ วชิรมน ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สเกาท์เอาท์ จำกัด หรือ ScoutOut เสริมทัพใหญ่ ด้วยการประกาศว่า นาย อริยะ พนมยงค์ หรือ บี๋ อดีตผู้บริหารประจำ Google Thailand , กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย และประธาน บริษัท BEC World จะมาร่วมลงทุนและเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทฯ ซึ่งการร่วมงานกันในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งให้กับ ScoutOut ในทุกๆ ด้านมากยิ่งขึ้น
สำหรับ ScoutOut เป็นบริษัทผู้ให้บริการระบบการสรรหาบุคลากรแบบครบวงจร Total Recruitment Ecosystem ที่มีผู้ใช้ระบบกว่า 9 ล้านคน ด้วยระบบ ScoutOut HR Tech startup ซึ่งอยู่เบื้องหลังโปรเจคสำคัญต่างๆ อาทิ Line Jobs, Google Ignite, JobNOW และ ScoutConnect เป็นต้น
ปัจจุบันสเกาท์เอาท์ มีฐานผู้สมัครงานผ่านทางเว็บไซต์กว่า 1.8 ล้านคน มีตำแหน่งงานรองรับการจ้างงานกว่า 730,000 ตำแหน่ง จากบริษัทที่ใช้บริการจัดหางานของ ScoutOut กว่า 25,000 บริษัท
นาย อริยะ พนมยงค์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ส่งผลกระทบให้คนไทยมีความเสี่ยงที่จะตกงาน หรือถูกเลิกจ้างงานกว่า 7-8 ล้านคน หรือเกือบ 20% ของจำนวนคนทำงานทั้งหมดในประเทศไทย และวันนี้ตลาดงานในไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสรรหาคนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับการค้นหาทักษะใหม่ๆ ในการทำงาน
ดังนั้นจึงมองเห็นโอกาสที่ดีสำหรับสตาร์ทอัพอย่าง ScoutOut ที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการขยายและมุ่งเน้นไปที่การช่วยผู้คนในการพัฒนาทักษะรอบด้าน
" ScoutOut จะช่วยนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบ รวมถึงกลุ่มคนวัยทำงาน ในการสร้างฐานข้อมูลของผู้สมัครงานที่มีชุดทักษะ เช่น E-Commerce หรือ Digital Marketing ฯลฯ ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในตลาดงานขณะนี้”
นาย อริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ที่มีการปิดเมืองจนถึงตอนนี้ พบว่ามีการโพสต์งานที่เกี่ยวข้องกับ E-Commerce และงานดิจิทัลเพิ่มขึ้น 17 % และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหลายบริษัท ก็มีการเลิกจ้างพนักงานเพื่อลดต้นทุนอยู่อย่างต่อเนื่อง
"ScoutOut ต้องการที่จะมีส่วนช่วยให้ผู้ว่างงาน หรือคนตกงาน ให้มีทักษะความรู้ ความเข้าใจทักษะด้านดิจิทัลมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการหางานต่อไป "
ในเบื้องต้น ได้เตรียมโปรเจคใหม่อย่าง “Scout Skill” เพื่อเป็นศูนย์รวมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะรอบด้าน และช่วยเหลือองค์กรในการคัดเลือกพนักงานคุณภาพให้ตรงตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ เพื่อเป็นกำลังให้ธุรกิจสามารถกลับมาเดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่งและเติบโตในยุคโควิด - 19 ได้ รวมทั้งสร้าง Digital Learning ให้กับกลุ่มคนตกงาน คนหางาน ได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและด้านอื่นๆ พร้อมจัดการทดสอบเพื่อรับใบประกาศนียบัตร (Certificate) สำหรับไว้ใช้รับรองในการสมัครงาน และสร้างโอกาสการทำงานได้ในอนาคต
“สิ่งสำคัญที่สุดและควรต้องรีบทำสำหรับทุกคนและทุกองค์กรนั้นคือ รีสกิล (Re-Skill) และ อัพสกิล (Up-Skill) รีสกิล ก็คือ การสร้างหรือเพิ่มเติมทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็นและเข้ากับโลกยุคปัจจุบัน ส่วนอัพสกิล คือ การพัฒนาทักษะเดิมให้สามารถใช้ได้กับโลกยุคดิจิตัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเช่น องค์กรต่างๆ ในวันนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 จึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน หลายๆ องค์กรเริ่มมุ่งเน้นธุรกิจไปในด้าน E-Commerce หรือธุรกิจออนไลน์มากขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขวางและรวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ สามารถวัดผลและทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ มีทักษะด้าน E-Commerce และ Digital Marketing เข้ามาเป็นส่วนช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเช่นกัน”
นายอริยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัญหาคนตกงานส่วนใหญ่ในวันนี้ คือ คนที่ไม่มี Digital Skill หรือ ไม่มีทักษะด้าน E-Commerce ตามที่บริษัทต่างๆ ต้องการ ดังนั้นถ้าคุณเป็นมนุษย์ทำงานที่ไม่มีทักษะด้านดิจิตัล จะหางานทำได้ยากมากในเวลานี้ และจะยากมากยิ่งขึ้นในอนาคต เพราะ “ทักษะด้านดิจิทัล” เป็นกลุ่มทักษะที่สำคัญที่สุด ณ เวลานี้ และทุกองค์กรต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้านนี้ ทำให้มีโอกาสที่จะได้รับเข้าทำงานสูงมาก แม้ในวิกฤตการณ์เช่นนี้ก็ตาม