นายธันยวัฒน์ จิตติพลังศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศแบรนด์ “ซัยโจ เด็นกิ” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา (มี.ค.-เม.ย.) ติดลบ 30% ซึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดในช่วงไฮซีซั่น แต่ขณะเดียวกันในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังสถานการณ์การระบาดเริ่มคลี่คลาย ภาพรวมตลาดเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง ทำให้ตลาดเริ่มกลับมาฟื้นตัวและชดเชยรายได้ที่หายไปช่วง มี.ค.-เม.ย. ได้

“ภาพรวมตลาดเดือน ม.ค.-ก.พ. ถือว่าดีมาก แต่หลังจากการระบาดของโควิด-19 ก็ส่งผลกระทบต่อตลาดค่อนข้างหนัก โดยช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมาประชาชนเริ่มอยู่บ้านมากขึ้น เมื่อสภาวะดีขึ้นประชาชนก็หันมาใส่ใจและอยากตกแต่งเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องปรับอากาศที่มีแนวโน้มการเติบโตที่สูงในช่วงเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงที่โควิดกำลังระบาดไม่สามารถปรับแต่ง, ล้างเครื่องปรับอากาศ หรือซื้อเครื่องปรับอากาศใหม่ได้ ทำให้พอสถาน การณ์เริ่มดีขึ้นประชาชนก็หันกลับมาซื้อหรือใช้งานมากขึ้น”

สำหรับแผนงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับการโฟกัสการทำตลาดในกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศเพื่อสุขภาพ เพื่อรองรับเทรนด์สุขภาพและการแข่งขันในตลาดเครื่องปรับอากาศของเมืองไทยที่ไม่ใช่แค่เรื่องของความเย็น หากแต่ในตลาดเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันยังหมายรวมถึงเรื่องของสุขภาพด้วย เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะมีการเดินเครื่องกิจกรรมการตลาดเพื่อสื่อสารความเป็นเครื่องปรับอากาศเพื่อสุขภาพอย่างจริงจัง

“แม้เราจะมีแนวทางการทำตลาดแล้ว แต่ทว่าแผนงานในครึ่งปีหลัง บริษัทยังอยู่ระหว่างการปรับแผนงานและกลยุทธ์ทางการตลาดไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ งบลงทุนต่างๆ เนื่องจากปีนี้ต้องยอมรับว่าเป็นปีที่สถานการณ์ไม่ปกติ ทำให้แผนงานทั้งหมดที่วางไว้โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถทราบแผนงานใหม่ได้ในช่วงปลายปีนี้”

อย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายยอดขายในสิ้นปีนี้ของบริษัทแม้จะไม่เติบโตตามเป้าหมาย แต่ก็สามารถรักษาการเติบโตจากปีที่ผ่านมา หรืออาจจะบวกเล็กน้อย 2-3% เทียบเท่ากับตลาด ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศปีนี้ก็ยังสามารถเติบโตทรงตัวได้ดีจากปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยบวกเรื่องของสภาพอากาศที่ร้อนจัดเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดยังคงสามารถเติบโตได้ในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ การทำงานที่บ้าน 

นอกจากนี้เทรนด์ในอนาคตผู้บริโภคจะไม่มองเครื่องปรับอากาศแค่ความเย็นหากแต่มองเรื่องสุขภาพด้วย โดยในปีหน้าเทรนด์ของตลาดเครื่องปรับอากาศจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ฟังก์ชันเรื่องของสุขภาพจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวแปรสำคัญการแข่งขัน

“การแข่งขันในตลาดเครื่องปรับอากาศเมืองไทย เริ่มมีเรื่องของเทรนด์สุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง หลังจากการระบาดของ PM2.5 จนมาถึงการระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น แน่นอนว่าทางแบรนด์ก็ยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญผ่านเรื่องของสุขภาพที่เป็นแนวทางการดำเนินงานของไซโจ เด็นกิ มาโดยตลอดเพื่อตอบโจทย์เทรนด์ดังกล่าว” 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,608 วันที่ 10 - 12 กันยายน พ.ศ. 2563

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอร์ 3 หมื่นล. ฝ่ามรสุมโควิด-19  ฉีดโปรแรง 0% นาน 18 เดือน

FTA ดันส่งออกเครื่องปรับอากาศ และชิ้นส่วนไทยพุ่งขึ้นเบอร์ 2 โลก