สำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงการคลังของ อิสราเอล ประกาศขยาย โครงการเครือข่ายความปลอดภัยทางเศรษฐกิจแห่งชาติ ( National Economic Safety Net Program) เพื่อบรรเทา ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ก่อนที่อิสราเอลจะดำเนิน มาตรการล็อกดาวน์ ประเทศรอบที่ 2 ในวันนี้
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และนายอิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอิสราเอล เป็นผู้ตัดสินใจขยายโครงการดังกล่าว โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์รอบที่ 2 ซึ่งจะดำเนินการเป็นเวลา 3 สัปดาห์
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังรวมถึงมาตรการที่จะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตลาดแรงงานอิสราเอลด้วย โดยนายจ้างบางส่วนจะได้รับเงินช่วยเหลือการจ้างพนักงานประมาณ 1,460 ดอลลาร์ ต่อพนักงาน 1 รายที่นายจ้างยังคงจ้างงานอยู่ เพื่อสนับสนุนให้นายจ้างไม่ปลดพนักงานท่ามกลางภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น ทั้งนี้ พนักงานที่นายจ้างให้ลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือน ก็ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์การว่างงานด้วย
โครงการดังกล่าวจะทำให้มีธุรกิจอีกมากที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยจะได้รับเงินกู้ที่รัฐเป็นผู้ค้ำประกัน และได้รับการลดหย่อนภาษีเทศบาล เป็นต้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การล็อกดาวน์รอบที่ 2 ของอิสราเอลจะเริ่มในวันนี้เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศว่า อิสราเอลจะทำการล็อกดาวน์ประเทศอีกครั้ง เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 18 ก.ย. นี้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะส่งผลให้ชาวอิสราเอลไม่สามารถเดินทางไกลกว่า 500 เมตรจากบ้านของตน อีกทั้งมีการปิดโรงเรียนและศูนย์การค้า เว้นแต่ร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ยังคงเปิดทำการ
นอกจากนี้ ประชาชนจะไม่สามารถรวมกลุ่มมากกว่า 20 คนในกลางแจ้ง ส่วนในที่ร่มจะรวมตัวกันได้ไม่เกิน 10 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สกัดโควิดไม่อยู่ "อิสราเอล" ล็อกดาวน์ประเทศรอบ2
แรงงานภาคเกษตรเฮ เดินทางกลับไปทำงานอิสราเอล หลังโควิดคลี่คลาย
เปิด“เบอร์ลินโมเดล” ชู "จ้างงานระยะสั้น" ฝ่าวิกฤติโควิด