บขส.จัดเดินรถ 6 พันเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว

18 พ.ย. 2563 | 05:27 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2563 | 12:30 น.

บขส.เตรียมความพร้อมจัดรถโดยสาร 6 พันเที่ยวต่อวันทั้ง 3 สถานีขนส่งฯ หวังอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางช่วงวันหยุดยาว 19- 22 พฤศจิกายนนี้ แนะผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาขึ้นรถที่สถานีขนส่งฯ อย่างน้อย 1 -2 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด

นายมาโนช สายชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจเดินรถ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งผลให้มีวันหยุดยาวต่อเนื่องระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2563 บขส. ได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชน โดยจัดรถโดยสาร (รถ บขส. ,รถร่วม , รถตู้) ให้บริการวันละกว่า 6,000 เที่ยว รองรับผู้โดยสารที่ใช้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร , ถนนบรมราชชนนี (สายใต้) , เอกมัย ) ได้สูงสุดวันละ 120,000 คน

บขส.จัดเดินรถ 6 พันเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว

สำหรับวันนี้ (18 พฤศจิกายน 63) คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมากที่สุด โดย บขส. ได้จัดโดยสาร (รถ บขส. ,รถร่วม , รถตู้) ให้บริการรวมกว่า 6,000 เที่ยว รองรับผู้โดยสารที่ใช้บริการ ได้ 120,000 คน ทั้งนี้ บขส. พร้อมอำนวยความสะดวกและจัดรถเสริมให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา มั่นใจไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้าง อย่างไรก็ดีขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งฯ ก่อนเวลารถออกอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง และขอให้ซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วเท่านั้น เพื่อป้องกันการหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ และหากพบเห็นสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งเจ้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก บขส. ได้กำชับไปยังนายสถานีเดินรถทั่วประเทศ ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ดำเนินการตามนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการแนะนำ ให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง มีการตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารไม่ให้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส จัดเตรียมแอลกอฮอล์ชนิดเจลหรือชนิดน้ำสำหรับล้างมือทั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและภายในรถ และประชาสัมพันธ์แนะนำให้ผู้โดยสารลงทะเบียนใช้แอปพลิเคชันไทยชนะหรือแพลตฟอร์มไทยชนะ ทุกครั้งที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะและที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร นอกจากนี้ได้เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง โดยตรวจเช็ครถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ติดตั้งระบบ GPS ควบคุมความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสารในการเดินทาง