SAMART ตัดขายทิ้งหุ้นบ.ย่อย“วันทูวัน” 69.18%

23 พ.ย. 2563 | 04:08 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ย. 2563 | 11:09 น.

กลุ่มสามารถ( SAMART) ตัดขายหุ้นบริษัทย่อย“วันทูวัน” 193.70 ล้านหุ้น สัดส่วน 69.18%  มูลค่า 464.88 ล้านบาท พร้อมรับปันผลระหว่างกาลอีก 154.96 ล้านบาท  มูลค่ารวม 620 ล้านบาท 

 

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น หรือ SAMART แจ้งว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2563 ได้มีมติอนุมัติให้จำหน่ายหุ้นสามัญของ บมจ. วันทูวัน คอนแทคส์ (บริษัทย่อย) หรือ OTO  ให้กับนักลงทุน 3 ราย ได้แก่ นายบุญเอื้อ จิตรถนอม นายสุทธิพจน์ อริยสุทธิวงศ์ และนายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ โดยบริษัทฯ และบริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด ( SE ) จะจำหน่ายหุ้นสามัญในถือใน OTO จำนวน 191,600,000 หุ้น และ 2,100,000 หุ้นตามลำดับ  รวมเป็นจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 193,700,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 69.18 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ OTO  มูลค่าหุ้นละ 2.40 บาท เป็นจำนวนเงิน 464.88 ล้านบาท ... อ่านฉบับเต็มที่นี่

 

โดยจะทำการซื้อขายกันในวันที่ 9 ธันวาคม 2563 พร้อมกันนี้บริษัทจะได้รับเงินปันผลระหว่างกาลจาก OTO หุ้นละ 0.80 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 154.96 ล้านบาท โดยกำหนดสิทธิ์ในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ซึ่งจะทำให้ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น รับเงินรวมมูลค่า 619.84 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2563 นี้

 

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์  กล่าวต่อถึงที่มาในการขายหุ้นบริษัทย่อยครั้งนี้ว่า กลุ่มบริษัทสามารถมีเป้าหมายในการสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจบนพื้นฐานของความชำนาญและโอกาสการเติบโตในระยะยาว โดยธุรกิจที่มุ่งเน้น (Core Business) ประกอบด้วยธุรกิจด้าน Digital ICT Solutions & Services และธุรกิจด้าน Utilities & Transportations ซึ่งเกี่ยวโยงกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

 

จากเป้าหมายดังกล่าวนำมาสู่การปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความชัดเจน เพื่อผลักดันให้ธุรกิจที่มุ่งเน้นเติบโตทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการต่อยอดธุรกิจ

 

ทั้งนี้บริษัทจึงตัดสินใจขายหุ้นใน บมจ.วันทูวันฯ บริษัทย่อยซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการ Contact Center ให้กับกลุ่มนักลงทุนดังกล่าวที่มีความสนใจ และมีศักยภาพในการขับเคลื่อนธุรกิจนี้ให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต

 

“อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปรับเปลี่ยนผู้ถือหุ้นแต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ บมจ.วันทูวันคอนแทคส์ และการให้บริการลูกค้าแต่อย่างใด และยังส่งผลให้ วันทูวันคอนแทคส์ มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการและการขยายธุรกิจมากยิ่งขึ้น” นายวัฒน์ชัยกล่าวปิดท้าย