นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด. เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์ทางการตลาดของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในช่วงไตรมาสที่ 4 ไปจนถึงปี 2564 มุ่งเน้นการตอกย้ำโพสิชั่นนิ่งของห้างและศูนย์ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ให้เป็นสถานที่ ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างครบครัน ภายใต้ 7 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.Customer Experience สร้างประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้าด้วยหลากหลายกิจกรรม
2. Digitization : Gamification นำเทคโนโลยี และดิจิทัลในการทำการตลาดแบบครบวงจร ทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ เพื่อเข้าถึงความต้องการของฐานลูกค้าหลักของเรา คือลูกค้า M Card ซึ่งมีกว่า 4.2 ล้านราย และลูกค้า SCB M VISA ที่มีกว่า 8 แสนคน ได้อย่างใกล้ชิด 3. Omni-Channel : O2O Omni Channel Retailers นำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น มาเป็นตัวช่วยในการวางแพลทฟอร์มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้มากที่สุด ครบทุกช่องทางที่สุด ทั้งทางออฟไลน์ ออนไลน์ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า และก่อให้เกิดประสบการณ์แห่งการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (Seamless Shopping Experience)
4. Collaboration การผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าเหมือนกัน ในการทำแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งขยายฐานกลุ่มลูกค้ามากขึ้น การร่วมกับพันธมิตรแบรนด์สินค้า ร้านค้าทั้งในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า พันธมิตรทางสถาบันการเงินเพื่อมอบข้อเสนอพิเศษที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า 5.Value Equation เน้นการมอบความคุ้มค่าในเรื่องสิทธิประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้าและพาร์ทเนอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดอะมอลล์ ทุ่ม 2 หมื่นล้าน รีแบรนด์ครั้งใหญ่รอบ 40 ปี
6.Food / SME Marketing ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Food Destination และการจัด Food Event ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังสนับสนุนส่งเสริมกลุ่ม SME ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เปิดพื้นที่ให้กลุ่ม SME ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น และ 7.CSR/Eco/Community เดอะมอลล์ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจเคียงคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม
ด้านทิศทางของเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยปัจจัยภายในประเทศได้แรงกระตุ้นจากมาตรการของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง อาทิ เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง และช้อปดีมีคืน มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่เกิน 30,000 บาท ที่ช่วยหนุนธุรกิจรีเทลให้กลับมาคึกคักได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
ดังนั้นเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี พร้อมคืนความสุขให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 250 ล้านบาท จัด 2 แคมเปญใหญ่ “HAPPIER TOGETHER 2021” ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และ“THE MALL JOY OF GIVING HAPPY FACTORY 2021” ที่ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ทุกสาขา เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563-6 มกราคม 2564 โดยไฮไลต์เป็นการรวมโปรโมชั่นแบบจัดเต็มทั้งส่วนลด, ของรางวัลพิเศษรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท กับการลุ้นรับของขวัญชิ้นพิเศษรถยนต์ TOYOTA MAJESTY มูลค่า 1,914,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีและสร้างบรรยากาศให้กลับมาคึกคักได้อย่างแน่นอน
“การจัดแคมเปญและกิจกรรมต่างๆครั้งนี้เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าในช่วงปลายปีและช่วยเพิ่มทราฟฟิคในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และศูนย์การค้าให้เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเวลาปกติ และทำให้เดอะมอลล์ กรุ๊ปมียอดขายในปีนี้ราว 5 หมื่นล้านบาทด้วย”
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,630 วันที่ 26 - 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563