นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 34/2563 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ในพื้นที่งานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำปี 2564 โดยกำหนดมาตรการป้องกันฯ ว่า
ข้อ 1 กำหนดให้พื้นที่จัดงานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ประจำปี 2564 เป็นเขตป้องกันโรค
ข้อ 2 ผู้เข้าร่วมงานทุกคนจะต้องถูกคัดกรองไข้ และอาการผิดปกติ รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากทางเลือกตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่จัดงาน
ข้อ 3 ให้เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการมิให้แออัด โดยคิดคำนวณผู้ใช้บริการตามขนาดพื้นที่เกณฑ์ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อผู้ใช้บริการ 1 คน
ข้อ 4 บุคคลที่เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดในจังหวัดสมุทรสาคร ให้งดเข้าร่วมงาน เว้นแต่ จะมีใบรับรองผลตรวจหาสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ภายใน 72 ชั่วโมง
ข้อ 5 ผู้เข้าร่วมงานทุกคนต้องทำการลงทะเบียนการเข้าร่วมงานผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ”
ข้อ 6 ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการข้างต้น ห้ามเข้าร่วมงานอย่างเด็ดขาด
ข้อ 7 สำหรับแรงานต่างด้าวที่จดทะเบียนกับนายจ้าง ให้นายจ้างออกหนังสือรับรองว่า มิได้เดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในห้วง ณ วันที่ผ่านมา เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดคัดกรองบริเวณทางเข้า กรณีแรงต่างด้าวที่ไม่ได้จดทะเบียนกับนายจ้าง เพื่อประโยชน์ในการป้องกันโรค คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีมติเห็นชอบกำหนดจุดให้บริการตรวจหาสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ได้แก่ โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลสันทราย โรงพยาบาลหางดง โรงพยาบาลสารภี และจุดบริการอื่นที่กำหนด โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยสามารถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป
ข้อ 8 กำกับการให้บริการและใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้จังหวัดเซียงใหม่ กำหนดจัดงานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำปี 2564 ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 10 มกราคม 2564 ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาแล้วเพื่อให้การจัดงานดังกล่าวดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ควบคู่ไปกับการจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
คำสั่งดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตร 22 มาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 การดำเนินการตามคำสั่งนี้ จึงไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาทางปกครอง ตามมาตรา 16 ของพระราชกำหนดดังกล่าว ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตร 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 โดยให้คำสั่งนี้มีสภาพบังคับในช่วงเวลา ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 10 มกราคม 2563
"การจัดงานครั้งนี้จะเป็นแนวทางในจัดงานเพื่อให้กิจกรรมอื่นที่จะมีขึ้นต่อไปได้ เพราะมีการวางแนวทางที่ชัดเจนในการควบคุมป้องกันโควิด 19 อีกประการส่วนหนึ่งแม้ว่าเชียงใหม่จะทำงานเชิงรุกในการตรวจคัดกรองแรงงานต่างด้าวก็จะใช้โอกาสนี้ตรวจสอบการคัดกรองอีกทางด้วย" ผู้ว่าฯเชียงใหม่ กล่าว