นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยว่า บริษัทได้รับงานใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 280 ล้านบาท ส่งผลให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 4,644.33 ล้านบาท จาก ณ สิ้นเดือนพ.ย. 63 มี Backlog อยู่ที่ 4,364.33 ล้านบาท ซึ่งบริษัทสามารถทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 64-66
ทั้งนี้ การรับงานดังกล่าว ประกอบด้วย 1.โครงการงานจ้างเหมาทำการฟื้นฟูทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 2216 ตอน โคกมน-กกกะทอน ตอน 1 มูลค่า 11.69 ล้านบาท 2.โครงการงานจ้างเหมาทำการงานฟื้นฟูทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 2013 ตอน บ่อโพธิ์ - โคกงาม มูลค่า 19.51 ล้านบาท 3. งานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน และงานก่อสร้างวางท่อประปาและงานที่เกี่ยวข้อง (โครงการทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนพหลโยธิน ช่วงที่ 2 จากสะพานข้ามคลองลาดพร้าวถึงถนนเทพรักษ์) มูลค่า 101.13 ล้านบาท 4.โครงการจ้างก่อสร้างตามแผนรายประมาณการ กิจกรรมบำรุงรักษาทางหลวง ประจำปี 64 รหัสงาน 27200 งานฟื้นฟูทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 106 ตอน ดอนไชย-ห้วยหญ้าไทร ตอน 1 มูลค่า 19.53 ล้านบาท
5. โครงการจ้างเหมาทำการฟื้นฟูทางหลวงเพื่อคืนสู่สภาพอย่างยั่งยืน ในทางหลวงหมายเลข 4 ตอนควบคุม 1204 ตอน ตรัง-เขาพับผ้า มูลค่า 43.15 ล้านบาท 6.โครงการจ้างก่อสร้างงานบำรุงถนนสาย ภก.4018 แยกทางหลวงหมายเลข 4031 - บ้านโคกโตนด อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มูลค่า 14.58 ล้านบาท 7.โครงการจ้างเหมางานทำการฟื้นฟูทางหลวงเพื่อคืนสู่สภาพอย่างยั่งยืน ทางหลวงหมายเลข 4238 ตอนไม้หลา-ลานสกา มูลค่า 22.39 ล้านบาท และ 8.โครงการจ้างก่อสร้างตามแผนรายประมาณการ กิจกรรมบำรุงรักษาทางหลวง ประจำปี 64 รหัสงาน 27200 งานฟื้นฟูทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 1349 ตอนควบคุม 0100 ตอนสะเมิง - วัดจันทร์ ตอน 1- 3 มูลค่า 47.50 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีงานที่รอผลประมูลงานเพิ่มอีกกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลภายในไตรมาส 1/64 นี้ โดยบริษัทมีความพร้อมในการรับงานทั้งในด้านบุคลากรและเครื่องจักร - เครื่องมือ ที่สามารถรองรับงานได้ทันที
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนคลองตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทาน ขนาดกำลังผลิต 2.5 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 189.77 ล้านบาท บริษัทได้ทำการส่งมอบงานให้กับเจ้าของโครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และรับรู้รายได้ที่เหลือจากโครงการดังกล่าว มูลค่า 4.71 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กฟผ. เตรียมทำพิธีเปิดในช่วงเดือน ก.พ. 64
“RT มีแผนเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานสร้างอุโมงค์ งานท่อร้อยสายไฟใต้ดินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า งาน Slope Protection และงานอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสรับงานใหม่อีก เพื่อเพิ่ม Backlog ให้สูงขึ้น โดยบริษัทมีนโยบายรักษา Backlog ต่อปีไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท” นายชวลิตกล่าว
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 63 บริษัทคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 2,800 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 10 -15% สาเหตุที่รายได้รวมเติบโตเกินเป้าหมาย เนื่องจากมีปริมาณงานมากขึ้น และส่งมอบงานได้เร็วกว่าแผน จากความชำนาญและเชี่ยวชาญงานด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิคโดยเฉพาะ พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 22-24% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 9 %