"ภราดร ปริศนานันทกุล"จวก "ธนาธร" เลอะเทอะโยงวัคซีนพระราชทาน
"ภราดร ปริศนานันทกุล"จวก "ธนาธร" เลอะเทอะโยงวัคซีนพระราชทาน แนะหยุดเล่นการเมืองสักพัก
รายงานข่าวระบุว่า นายภราดร ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย โพสเฟซบุ๊ก (ภราดร ปริศนานันทกุล) โดยมีข้อความ ว่า เรื่องดราม่าของวัคซีน ผมไม่มีโอกาสได้ดู live ในตำนาน แต่ได้มาดูย้อนหลัง มีหลายเรื่องที่คลางแคลงใจว่าเป็นไปอย่างที่เขาว่าจริงหรือไม่ เมื่อวานทั้งวันจึงได้นั่งอ่าน นั่งดู ทั้งคำชี้แจงของสาธารณสุข และ บทความของหลายท่าน พอสรุปประมวลออกมาได้ว่า
1.ประเด็นความล่าช้าของการสั่งจองวัคซีน
ผู้ live บอกว่า หากเชื่อเขาตั้งแต่แรกเราคงมีวัคซีนเพียงพอสำหรับทุกคน ท่านครับ การระบาดหนักในรอบแรกทั่วโลกเกิดขึ้นช่วงเดือน มีนาคม 2563 นานาประเทศเพิ่งเริ่มคิดค้นวัคซีนเพื่อป้องกันโรค เป็นโรคใหม่ ไม่มีบริษัทไหนเลยที่สามารถการันตีได้ว่าได้ผล100% และ ไม่ส่งกระทบข้างเคียงต่อประชาชน การเร่งรีบสั่งซื้อแต่เนิ่นๆแบบที่ว่า จะกลายเป็นการซื้อของคุณภาพต่ำ และ ราคาสูง และที่สำคัญที่สุดคือ เอาชีวิตของประชาชนไปเสี่ยง #แบบนี้ใครรับผิดชอบ?
2.เคลมว่า นานาประเทศ เช่น มาเลเซีย ฟิลิปินส์ มีการสั่งซื้อในตัวเลขต่อประชากรที่สูงกว่าไทย
ท่านครับ นั่นคือตัวเลขที่สั่งจอง และยังไม่ได้ของทันที วัคซีนก็ทยอยส่งให้ประเทศเหล่านั้นเป็น ล้อต เหมือนกับประเทศไทย ตัวเลข 21% ของประชากร ที่ท่านอ้างถึง มาจาก 2ล้านโดส + 26ล้านโดส = 28ล้านโดส 1คนต้องใช้2โดส นั่นคือใช้ได้กับคน 14ล้านคน #แต่ ครม.ก็มีมติเพิ่มเติมสั่งซื้ออีก 35ล้านโดส 17.5ล้านคน เมื่อรวมกับ14ล้านคน ตัวเลขจึงไม่ใช่21% แต่มากถึงเกือบ 50% #ตัวเลขนี้ทำไมท่านไม่พูดถึง#ท่านไม่แฟร์#ท่านจงใจบิดเบือนใช่หรือไม่?
3.รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้ สยามไบโอไซน์เอนซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างผลิตวัคซีน ให้ แอสตร้าเซเนกร้า และสั่งซื้อจากบริษัทเดียว
เดี๋ยวนะ ใจเย็นๆก่อน รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้เลือกว่าบริษัทใดจะเป็นผู้ผลิตวัคซีนนะ เจ้าของวัคซีนคือ แอสตร้าเซเนก้า เขาเลือกให้ บ.สยามไบโอไซน์เอน เป็นผู้ผลิต ซึ่งมีข้อตกลงว่าผลิตปีละ 200ล้านโดส วัคซีนทั้งหมดไม่ใช่เป็นของ สยามไบโอไซน์ แต่เป็นของแอสตร้าเซเนก้าซึ่งคือผู้ว่าจ้าง รัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนจากแอสตร้าเซเนก้า ตามข้อตกลงคือ 26ล้านโดส +35ล้านโดส
ถามว่าผลิตตั้ง 200 ล้านโดส แบ่งให้คนไทยใช้แค่ 26 ล้านโดส ที่เหลือส่งไปขายที่อื่น. เอ้าาา เห้ยยย ก็เขามีหน้าที่แค่ผลิตตามจำนวนที่แอสตร้าให้ผลิต ส่วนเรื่องขายใครเท่าไร เป็นเรื่องของแอสตร้ารึเปล่า???
#แล้วแบบนี้เอื้อให้บ.สยามไบโอไซน์เอนตรงไหน??
เอื้อตรงที่รัฐบาลสสับสนุนเงินให้บ.สยามไบโอไซน์เอนเพียงบริบัทเดียวไง เขาว่าเช่นนั้น เอิ่มม ต้องลองไปอ่านพรบ.ความมั่นคงด้านวัคซีนใหม่ครับ รัฐบาลสามารถสนับสนุนบ.ใดก็ได้หาก บ.นั้นๆได้ทำ MOU กับเจ้าของเทคโนโลยี ในเมื่อสยามไบโอไซน์เอนได้ทำ MOU กับแอสตร้าเซเนก้าเรียบร้อย ก็สามารถขอรับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลได้ ก็เป็นไปตามกฏหมายกำหนด ไม่เห็นมีอะไรพิเศษนี่ครับ
#ท่านต้องการดิสเครดิตบ.สยามไบโอไซน์เอน เพื่อกระทบถึงคนที่ท่านอ้างถึง เพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองใช่หรือไม่???
#วัคซีนพระราชทาน!!! ท่านก็รู้ว่ารัฐบาลใช้งบประมาณซื้อวัคซีนทั้งหมด วาทะกรรมที่ว่าพุ่งเป้าไปที่ไหน และเพื่ออะไร ประชาชนเขาอ่านออกนะ อย่าเอาประเด็นบิดเบือนและทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบันไปสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนอีกเลย รังแต่จะสร้างความสับสนและไม่ได้ช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นแม้แต่น้อย
เราคนไทย ควรยินดีมิใช่หรือ ที่เขาเลือกบริษัทของไทยเป็นผู้ผลิตเพื่อกระจายให้ประเทศในภูมิภาคนี้ ทำไมเขาไม่เลือกบริษัทอื่นละ? เพราะบริษัทนี้มีศักยภาพในการผลิตให้เขาอย่างเพียงพอและมีคุณภาพมิใช่หรือ???
(บทสัมภาษณ์จากแอสตร้าเซเนก้า ตามอ่านทีเพจ Thailand Vision)
สั่งซื้อจากบริษัทเดียว? ก็ไม่ใช่นะ คุณก็พูดเองไม่ใช่หรือ ว่า 2ล้านโดส มาจากชิโนแวค (ซึ่งซีพีถือหุ้น15%) และหากสั่งซื้อจาก ชิโนแวคมากๆ คุณก็จะด่าเขาว่าเอื้อประโยชน์ให้ซีพีอีกละสิ!! พ่อคู้นนนนน มากกว่านั้น คุณก็รู้มิใช่หรือว่าการเก็บรักษาวัคซีนยี่ห้ออื่น ไฟเซอร์, โมเดน่า มันต้องเก็บที่อุณหภูมิ -70 และ -20 องศาเซลเซียส ซึ่งจะยากมากต่อการลำเลียงขนส่ง แน่นอนเพิ่มราคาต่อโดสให้สูงขึ้น ในขณะที่แอสตร้าเซเนก้าและชิโนแวค เก็บได้ที่อุณภูมิตู้เย็น2-8 องศา ทำให้บริหารจัดการได้ง่ายกว่ารึเปล่า??
4.เรื่องผลกำไรขาดทุนของ สยามไบโอไซน์เอนไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะไปขุดคุ้ย ผมสนใจแต่เพียงว่า แอสตร้าเซเนก้า เขามั่นใจว่าบ.นี้สามารถผลิตของตามคุณภาพให้เขาได้ก็พอละ
#ไหนว่าทำการเมืองใหม่
บนสถานการณ์แบบนี้ สมควรหรือไม่ที่เอาข้อมูลจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง จินตนาการเอาเองบ้างมาปั่นสังคม ผมว่าหยุดเล่นการเมืองสักพักเถอะ เลอะเทอะไปถึงวัคซีนพระราชทานนู่นนนน hate speach ลดได้ก็ลดเนอะ
ผมยืมคำหัวหน้าผมมาใช้สะหน่อย
#ถ้าไม่ได้ทำ พูดอะไรก็ได้หมด
#มือไม่พาย ก็อย่าเอาอะไรราน้ำ
ล่าสุดวันนี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดแถลงข่าวชี้แจงกรณีการผลิตวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ที่ สำนักงานคณะก้าวหน้า ตอบโต้รัฐบาล ที่สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้อง แจ้งความเอาผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่า ขอให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องเปิดเผยเอกสารสัญญาทั้งหมด ที่ได้ทำกับบริษัท แอสตราเซเนกา และสยามไบโอไซเอนซ์ โดยเฉพาะไม่มีหลักฐานตรงไหน หรืออะไรกล่าว ถึงประเด็นไม่ได้แสวงหากำไร
โดยยืนยันที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยได้ยินเจ้าหน้าที่รัฐบาลนำมาพูด หรือมีหลักฐานอะไรเลย หมายถึงหลักการที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 แบบไม่เอากำไร หากแน่จริงก็เปิดเผยสัญญา ขอให้เปิดเอกสารมา ที่ทำกับบริษัทแอสตราเซเนกากับ สยามไบโอไซเอนซ์ ขอให้เปิดเอกสารมา
มีใครเห็นไหม ว่าบริษัทนี้ผลิตยาออกมาขายต่ำกว่าราคาตลาดจริงๆ มีไหม ผมไม่เห็นนะ ผมยืนยันว่า มีบริษัทอื่นๆ เกี่ยวข้องกับสถาบัน หากสื่อมวลชนจะพูดเรื่องนี้ ให้ลองตั้งคำถามว่า ยาตัวไหนที่ผลิต ขายในตลาดราคาเท่าไร แล้วเขาขายต่ำกว่าทุนจริงหรือเปล่า ฝากตั้งคำถามด้วย ในฐานะสื่อมวลชน พอเป็นบริษัทจำกัด มันทำไม่ได้
อย่างไรก็ดี ยืนยัน หากรัฐบาลอยากจะชี้แจงก็ต้องเปิดเผยเอกสารทั้งหมด ที่ทำกัน ระหว่างรัฐบาลไทย กับ บริษัท แอสตราเซเนกา และ สยามไบโอไซเอนซ์
"ตนอายุ 42 ปี ทำงานการเมืองมา 2 ปี ก่อนที่จะมาทำงานการเมือง ไม่เคยเจอคดีความอะไรเลย แต่พอมาทำงานการเมืองก็อย่างที่เห็นเจอคดีความเป็นจำนวนมาก ตนยืนยันว่า พวกเรามีความหวังดีต่ออนาคตของชาติบ้านเมือง ทุกสิ่งที่จะทำตรงนี้ และที่จะทำต่อไป ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเลย ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน และเพื่อประโยชน์ของทุกคน"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ธนาธร”โต้รัฐบาลยันวิจารณ์วัคซีนโควิดตรวจสอบภาษีประชาชน
'ธนาธร'ไม่หวั่น ม.112 จี้เปิดเอกสาร "สยามไบโอไซเอนซ์"
นายกฯซัด“ธนาธร”บิดเบือนปมวัคซีน สั่งลุยดำเนินคดีแพร่ข้อมูลเท็จ