บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ขายหุ้นบิ๊กล็อต จำนวน 503 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.52% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด จากนางอารดา จรูญเอก, เด็กชายพีระ จรูญเอก และเด็กหญิงรดา จรูญเอก ให้กับบริษัท ทุนพีรดา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ครอบครัวจรูญเอกถือหุ้น 100% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยการได้มาซึ่งหุ้นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัท ทุนพีรดา จำกัด ถือหุ้น ORI จำนวน 618 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.23% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร กล่าวว่า การทำรายการซื้อขายหุ้นบิ๊กล็อตดังกล่าว เป็นการปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่มครอบครัว “จรูญเอก” เพื่อให้โครงสร้างการถือหุ้นของครอบครัวจรูญเอกใน “ORI” มีความชัดเจนมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกคล่องตัวในการบริหารจัดการทรัพย์สินของครอบครัว ซึ่งภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้น บริษัท ทุนพีรดา จำกัด จะถือหุ้นใน ORI เพิ่มจาก 4.71% เป็น 25.23% โดยที่ตนเอง “พีระพงศ์ จรูญเอก” ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 28.28% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด
“การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นครั้งนี้ เป็นการปรับภายในของครอบครัวจรูญเอก ยืนยันว่า จะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อโครงสร้างการจัดการ รวมถึงการกำหนดนโยบาย และอำนาจในการบริหารงานของบริษัท โดยจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารแต่อย่างใด” นายพีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้น นายพีระพงศ์ จรูญเอก ยังคงถือหุ้นในสัดส่วน 28.28%, บริษัท ทุนพีรดา จำกัด สัดส่วน 25.23%, นางอารดา จรูญเอก สัดส่วน 6.83% รวมหุ้นซึ่งถือโดยกลุ่มครอบครัวจรูญเอก 60.33%
เกี่ยวกับ บริษัท ทุนพีรดา จำกัด
บริษัท ทุนพีรดา จำกัด ก่อตั้งขึ้นโดย นายพีระพงศ์ จรูญเอก และนางอารดา จรูญเอก ซึ่งถือหุ้นโดยครอบครัวจรูญเอก 100% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นบริษัทโฮลดิ้งของครอบครัวจรูญเอก ในการเข้าถือหุ้น ORI เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการทรัพย์สินของครอบครัวจรูญเอก โดยได้เข้าถือหุ้นใน ORI นับตั้งแต่ปี 2557
เกี่ยวกับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 81 โครงการ เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 125,000 ล้านบาท
2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก
3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
" ออริจิ้น" เผยยอดขาย ทะลุ 25,600 ล้าน เดินหน้าสู้ศึกอสังหาฯปี 64