ดร.พรชัย มงคลวนิช นายกสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ร่วมกันเปิดเผยว่า สสอท. และสภาดิจิทัลฯ ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับบัณฑิตไทยให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในด้านดิจิทัล และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยพร้อมก้าวสู่ประเทศไทย 4.0
โดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือ ครั้งนี้เป็นมิติใหม่ของสภาดิจิทัลฯ ที่มุ่งเน้นการ “พัฒนาคน” โดยต้องการส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาให้มีมาตรฐานสากล ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรองรับการพัฒนาด้าน “เศรษฐกิจดิจิทัล” หรือ Digital Economy ให้กับประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้นโยบายพันธกิจของสภาดิจิทัลฯที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
“ความร่วมมือระหว่างสภาดิจิทัลฯกับสสอท.ครั้งนี้ ตั้งเป้าหมายการพัฒนานิสิตนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษากว่า 2 แสนคน จะเสริมสร้างศักยภาพให้ประเทศมหาศาล โดยเฉพาะการสร้างงานสร้างโอกาสในภาวะเศรษฐกิจยุคโควิด ที่นักศึกษาจบใหม่ต้องประสบปัญหาการว่างงานจำนวนมาก หากมีทักษะด้านดิจิทัล จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามลำดับ เพราะทิศทางเศรษฐกิจนับจากนี้ จะขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างแท้จริง และจะมีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่าน้ำมันต่อไปในอนาคต”
โดยขอบเขตความร่วมมือมี 4 ด้าน คือ
1. ร่วมสร้างกำลังคนที่มีศักยภาพสูงและมีความรู้ ความสามารถด้านการใช้ระบบสารสนเทศดิจิทัล มีคุณลักษณะและสมรรถนะตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
2. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ระหว่างบุคลากรของสถาบันสมาชิกของสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ ฯ และสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย
3. เพื่อให้สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ ฯ และสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย บูรณาการความร่วมมือในการจัดการการศึกษาเชิงบูรณาการระหว่างการเรียนรู้ในสถาบันกับการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการต่าง ๆ
4. เพื่อร่วมกันสร้างดิจิทัล Platform เพื่อรองรับการจ้างงานของบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านดิจิทัล และการพัฒนาขีดความสามารถด้านดิจิทัลในลักษณะ Reskill/Upskill ที่จัดขึ้นโดยสถาบันการศึกษา สมาคม และหน่วยงานอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ให้สามารถต่อยอดเพื่อการพัฒนา Platform การเรียนรู้ร่วมกันในอนาคต
โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านดิจิทัลในสาขาที่สอดคล้องกับแรงงานตลาด ร่วมเป็นอาจารย์ในการเรียนการสอน รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกของ สสอท. คณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญในสถานประกอบการ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ จากสภาดิจิทัลฯ ที่จะช่วยกันประเมินผลสัมฤทธิ์ในการจัดการการศึกษา โดยเน้นให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้จริง
รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือด้านการวิจัย พัฒนานวัตกรรมและแพลทฟอร์มใหม่ๆ ในการเรียนการสอนที่สภาดิจิทัลฯได้พัฒนาขึ้นมา ตลอดจนความร่วมมืออื่นๆ ที่ทั้งสององค์กรให้ความเห็นชอบร่วมกันในอนาคตอีกด้วย ขณะเดียวกันในอนาคตข้างหน้าสภาดิจิทัลฯจะเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยภาครัฐต่อไปอีกด้วยเพื่อให้เกิดการผลักดันยกระดับทักษะด้านดิจิทัลให้คนรุ่นใหม่ในทุกภาคส่วนเพื่อช่วยยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สภาดิจิทัลฯ ย้ำองค์กรเร่ง “ทรานส์ฟอร์ม” บุคลากรสู่ดิจิทัล
สภาดิจิทัลฯดันไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของภูมิภาค
วิสัยทัศน์“บิ๊กซีพี” ดันไทยศูนย์กลางโลจิสติกส์ภูมิภาค