HIGHLIGHTS
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หนังสือข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีข้อความโดยละเอียดดังนี้
ด้วยสำนักงาน ป.ป.ช. ขอเสนอเรื่องข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษา โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ(North Expansion) มาเพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
โดยเรื่องนี้เข้าข่ายที่จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 มาตรามาตรา4(1) รวมทั้งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ซาติในด้าน (6) การบริหารราชการแผ่นดิน การปรับปรุงระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เห็นซอบให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีด้วยแล้ว
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวมีรายละเอียด ดังนี้
1. เหตุผลความจำเป็นที่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 คณะรัฐมนตรี เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2559) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. วงเงินลงทุน 62,503.214 ล้านบาท
ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 โครงการก่สร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานและอาคารจอดรถ โครงการก่สร้างอุโมงค์ด้านทิศใต้ โครงการจัดหารถไฟฟ้าไร้คนขับและโครงการจัดหาระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ
โดย ทอท. ได้ดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามแผนที่กำหนดไว้ ยกเว้นงานก่อสร้างอาคาร East Expansion ที่ชะลอารดำเนินการ ต่อมานักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความเห็นคัดค้านการก่อสร้างอาคาร Multi Terminal ปัจจุบันเรียกว่า ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ หรือ North Expansion เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหามากกว่าการแก้ไขปัญหา เช่น ปัญหาการจราจรทางอากาศ ปัญหาความไม่สะดวกของผู้ใช้บริการ เป็นต้น
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร 1115/268 ลงวันที่ 16 มกราคม 2562 ถึงกระทรวงคมนาคม โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เกี่ยวกับการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารที่ไม่สอดคล้องกับแผนพัฒนาท่อากาศยานสุวรรณภูมิ
และไม่เชื่อมโยงกับแผนพัฒนาด้านคมนาคมของประเทศ และได้แนะนำให้ ทอท. ดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรก ก่อนที่จะนำโครงการก่อสร้างอาคาร North Expansion มาพิจารณาทบทวนอีกครั้ง
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) จึงเห็นควรให้มีการศึกษาข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อเสนอให้มีการกำหนดมาตรการหรือข้อเสนอแนะในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ กรณีการสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดประเทศเป็นสำคัญ
2. ความเร่งด่วนของเรื่อง
เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันกันการทุจริต เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรีอวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ
เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และเพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการใดที่เป็นช่องทางให้มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลดีต่อราชการได้ ต่อไป
3. สาระสำคัญ ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงในการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) แล้ว เห็นควรมีข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษา โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ต่อคณะรัฐมนตรีตามนัยมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2561
เพื่อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และเพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการใดที่เป็นช่องทางให้มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลดีต่อราชการได้
4. ผลกระทบ
การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) เพื่อรองรับผู้โดยสารสูงสุด 30 ล้านคนต่อปี ตามที่ ทอท. เสนอนั้น จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 42,000 ล้านบาท เนื่องจากต้องลงทุนเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมต่อระหว่างอาคารส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือกับพื้นที่ของกลุ่มอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินอื่นๆ เช่น ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ และระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เป็นต้น
ในขณะที่การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและตะวันตก (East & West Expansion) ใช้งบประมาณในการก่อสร้างเพียง 12,000 ล้านบาท แต่สามารถรองรับผู้โดยสารได้เช่นเดียวกับอาคาร North Expansion ซึ่งทำให้ประหยัดงบประมาณในการลงทุนถึง 30,000 ล้านบาท
ข้อกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 มาตรา 32 "คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจเสนอมาตรการ ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี รัฐสภา ศาล องค์กรอิสระ หรือองค์กรอัยการในเรื่องดังต่อไปนี้
(1) รับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแเผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม\
(2) จัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเข้มงวดให้มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อาจปฏิบัติหน้าที่
(3) เสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการใดที่เป็นช่องทาให้มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลตีต่อราชการได้
5. ข้อเสนอของส่วนราชการ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสวรด้านทิศเหนือ (North Expansion)แล้วเห็นควรมีข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันการทุจริต ตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต' พ.ศ. 2561 ดังนี้
1. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ควรเร่งดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารค้านทิศตะวันออก (East Expansion) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 ซึ่งอยู่ในแผนงานเดิมโดยเร็ว ให้สอดคล้องกับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 จะเปิดให้บริการ ในปี พ.ศ. 2565
และควรดำเนินการโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก (West Expansion) ในคราวเดียวกัน เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุด 75 ล้านคนต่อปี เพื่อลดความแออัดของอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน
2. บริษัท ท่าอากาศยนไทย จำกัด (มหาชน) ควรดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามคำแนะนำของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ดำเนินการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก
และก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี เป็นคำดับแรกก่อน แล้วจึงนำโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนื่อ (North Expansion) มาพีจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทอท.ยังดื้อ!แม้ ครม.เห็นชอบข้อเสนอแนะ ป.ป.ช.“ไม่เอา” เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ
ส่อง!! จม.สภาพัฒน์ ค้านสร้างเทอร์มินัล 2
"ดร.สามารถ" ขยี้ 5 ปมร้อน ป.ป.ช.ยี้ เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ
ดร.สามารถ โพสต์ ‘สะกิด ครม. ก่อนพิจารณา เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ’
“สามารถ ราชพลสิทธิ์” โพสต์สร้างเทอร์มินัล ต้องระวัง“คาร์บอมบ์”