"รายการข่าว" ปะทุ สรยุทธ คืนจอ ทวงเรตติ้ง

22 เม.ย. 2564 | 11:43 น.

สนามข่าวส่อแววเดือด สรยุทธ์ คืนจอช่อง 3 พร้อมชิงเรตติ้งรายการข่าว ลุ้นเม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวี และรายการข่าว พลิกบวก

นาย ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI  เปิดเผยว่า การกลับมาของกรรมกรข่าวตัวพ่อ อย่าง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ในครั้งนี้ จะส่งผลอย่างมีนัยยะสำคัญในหลายๆเรื่อง เช่น ความสนใจในการติดตามข่าวสาร อิทธิพลทางความคิด ความรู้สึก ของผู้ชมรายการโทรทัศน์ต่อข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่างๆ และการสร้างแรงกระเพื่อมให้กับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งในอดีต สรยุทธ มีบทบาทสำคัญต่อเรื่องเหล่านี้ 

การคืนจอของ สรยุทธ น่าจะส่งผลบวกโดยตรงต่อรายการข่าวของช่อง 3 ที่จะได้อานิสงส์เชิงบวกอย่างทันทีนั่นหมายความว่าเรตติ้งน่าจะกลับมาดี ซึ่งMIเชื่อว่า สรยุทธ จะมีผลต่อการรับชมรายการข่าวของคนดูทีวีหรือคนทั่วไปบนโซเชียลซึ่งส่งผลต่อเม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวีโดยรวม

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของสรยุทธคือ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2014 หลังจากมีมีดิจิตอลทีวี จนกระทั่งปัจุบันมีผู้ชมลดลงถึง 25% โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้นใช้มี social media เป็นหลัก ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคสื่อ พฤติกรรมของผู้ชมหรือผู้เสพรายการข่าว หรือคอนเทนท์ประเภทข่าวเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ

สรยุทธ  สุทัศนะจินดา

ทั้งการรับชมรายการข่าวผ่าน TV ช่องต่างๆ และช่องทางออนไลน์หรือผ่าน Social Media ของ Publishers และ KOLs ที่หลากหลาย (ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น) เป็นที่นิยมมากขึ้นในวงกว้าง จนกลายเป็นพฤติกรรมหลักไปแล้วสำหรับคนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนเมืองและคนรุ่นใหม่

ดังนั้นการกลับมาทำหน้าที่ผู้ดูแลรายการข่าว ผู้ดำเนินรายการข่าวของ สรยุทธ อาจเป็นเรื่องยากและท้าทายมากที่จะดันเรตติ้งกลับไปที่จุดเดิมหรือสูงกว่าเรตติ้งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จากข้อมูลเรตติ้งเฉลี่ยของ ”รายการเรื่องเล่าเช้านี้” ในช่วงที่สรยุทธยังจัดรายการอยู่ เปรียบเทียบกับเรตติ้งเดือนล่าสุด ตกลงมากกว่า 60% และ”รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์” ตกมากกว่า 30%

เรตติ้งเฉลี่ยของรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” และ “เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์”เริ่มลดลงในเดือนมีนาคม 2016 (2559) หลังจากสรยุทธ์ ยุติการจัดรายการและเรตติ้งค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนค่อนข้างคงที่ตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปัจจุบัน

ช่วงมาตรการ Lock-down จาก Covid-19 ระลอกแรก เรตติ้งของ “เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์” และ “เรื่องเด่นเย็นนี้” สูงขึ้นอย่างชัดเจน อาจเนื่องจากช่วงเวลาระหว่างวัน ที่ผู้ชมไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้ตามปกติ ในขณะที่ “เรื่องเล่าเช้านี้” เรตติ้งไม่มีเปลี่ยนแปลง

ช่วงมาตรการ Lock-down จากCovid-19 ระลอกแรก มีผลให้เรตติ้งทีวีสูงขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ 10%-15% ผู้ชมใช้เวลาดูทีวีเฉลี่ยในแต่ละวันมากขึ้นประมาณ 30 นาที ส่วนในระลอก 2 และระลอก 3 ไม่มีผลต่อเรตติ้งทีวีแต่อย่างใด

ภวัต เรืองเดชวรชัย

อีกภาพที่เห็นได้ชัดคือ ในอดีตจะมีผู้เล่นหลักๆในสนามข่าวคือช่อง 3 และช่อง 7 ซึ่งครองเรตติ้งรายการข่าวมายาวนานแต่ หลังจากที่ สรยุทธ ยุติการจัดรายการช่องที่ได้อานิสงส์เชิงบวกทันทีคือรายการข่าวช่อง 7  ก่อนที่ช่องAmarin TV, WorkPoint TV, Thairath TV, One HD  เริ่มเข้ามามีบทบาทในช่วง 4-5 ปีนี้ และมีความแข็งแรงด้านคอนเทนต์ข่าวพอสมควร  

สิ่งที่น่าสนใจคือ ความนิยมในตัวของ สรยุทธ จะมีผลต่อการดึงเรตติ้งกลับมาอยู่ที่ช่อง 3 มากขึ้นหรือไม่และจะมีผลต่อการปรับตัวของช่องอื่นๆอย่างไร ในฐานะที่เป็นรายการข่าวที่แข็งแรงและเติบโตในช่วง 2-3 ปีนี้

และอีกส่วนที่น่าจับตามองคือราคาโฆษณา เพราะหลังจาก สรยุทธ ยุติการทำรายการ ตลอดจน เผชิญวิกฤติต่างๆรวมทั้ง โควิด 19  ราคาเรตโฆษณาของรายการข่าวช่อง 3 ไม่มีการปรับลง และคงที่ราวๆ 200,000 บาทต่อนาที  แต่หลังจากความนิยมลดน้อยลงเรตติ้งก็เริ่มตก ทางเอเจนซี่อาจมีการต่อรองลดราคาหลังบ้านเป็นกรณีพิเศษ 

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะยังไม่เห็นการปรับขึ้นของราคาโฆษณาเร็วๆนี้แน่นอน แต่จะเห็นราคาที่ยืดหยุ่นน้อยลง โปรโมชั่นน้อยลงจากรายการข่าวของช่อง 3 ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความนิยมของตัว สรยุทธ และ รายการข่าวของช่อง 3 ด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าจะตอบรับหรือไม่ตอบรับราคาดังกล่าว 

หากย้อนกลับไปเมื่อครั้ง สรยุทธ ได้รับความนิยม ลูกค้าที่ซื้อโฆษณารายการข่าว 3 ไม่ได้ซื้อโฆษณาเพราะราคา แต่ยอมจ่ายเพราะ ความนิยมของรายการ และตัว สรยุทธ มากกว่า โดยสัดส่วนเม็ดเงินโฆษณาจะอยู่ที่รายการข่าว 25% 

แม้ว่าข่าวการคืนจอของ สรยุทธ จะยังไม่เห็น movement หรือการปรับตัวของช่องอื่นๆ แต่เชื่อว่าทุกช่องเตรียมพร้อม และสิ่งแรกที่ช่องอื่นจะทำหาก สรยุทธ สามารถทำให้เรตติ้งช่อง 3 กลับมาพลิกนำ คือ ใช้เทคนิคการตลาด เช่นมีการปรับราคาโฆษณา ให้น่าสนใจมากขึ้นเพื่อให้เอเจนซี่หรือลูกค้าสามารถซื้อราคาที่คุ้มมากขึ้น

\"รายการข่าว\" ปะทุ สรยุทธ คืนจอ ทวงเรตติ้ง

“ทาง MI มองว่าบทบาทและความนิยมในตัวสรยุทธในปัจจุบัน ภายใต้ สมรภูมิสื่อที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิตัลที่ Social Media มีอิทธิพลต่อคนไทยอย่างมากใน (Changing Media Landscape) สรยุทธไม่ใช่เป็นเพียงแค่ผู้ดูแล ควบคุมและดำเนินรายการข่าว แต่สรยุทธถือว่าเป็น Influencer (KOL) แนวหน้าที่ทรงพลังที่สุดคนนึงก็ว่าได้ นอกเหนือจากการเป็นผู้ดำเนินรายการข่าว คุยข่าว สรยุทธยังเป็นผู้สร้างคอนเทนท์ข่าว การนำเสนอในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ และสามารถปลุกกระแสข่าว สร้างแรงกระเพื่อม (Call to Action) ในกิจกรรมต่างๆได้อย่างมาก”

เพราะฉะนั้นการวัดความนิยมในตัวสรยุทธในฐานะกรรมกรข่าว คงวัดจากเรตติ้งผู้ชมรายการข่าวทาง TV ของช่อง3 อย่างเดียวคงไม่พอ การคำนึงถึงจำนวนผู้ชมและผู้มีส่วนร่วมในช่องทางออนไลน์ social media ต่างๆ น่าจะเป็นคำตอบที่ทำให้ภาพชัดเจนถึงความนิยมและอิทธิพลของสรยุทธต่อคนไทยและผู้บริโภคข่าวจากหลากหลายช่องทางด้วย”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง