อาการคิดว่าตัวเองไม่เก่ง
ผู้หญิงจำนวนมากในธุรกิจครอบครัวมี “อาการคิดว่าตัวเองไม่เก่ง” (imposter syndrome)” มีงานวิจัยที่พบว่าความสามารถของผู้นำนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเพศแต่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้ถูกสำรวจหญิงส่วนใหญ่เชื่อว่า
การมีลักษณะและการแสดงพฤติกรรมที่คล้ายพวกผู้ชายจะทำให้พวกเธอได้รับการยอมรับและมีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำงาน โดยผู้หญิงที่ถูกสำรวจนั้นระบุถึงคุณลักษณะความเป็นผู้นำที่น่าชื่นชมซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นพฤติกรรมของผู้ชาย ได้แก่ การมีวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้า ความมั่นใจสูง ความเฉลียวฉลาด ความสามารถในการต่อสู้
ในธุรกิจครอบครัวรุ่นเก่านั้นมักมีอคติทางเพศที่รุนแรง ซึ่งความคิดแบบนี้ฝังรากลึกมากในสังคมตะวันออกจนกลายเป็นวัฒนธรรมและหล่อหลอมคนในสังคมให้มีความคิดที่บิดเบือน ในงานวิจัยแม้ผู้ถูกสำรวจส่วนใหญ่รู้สึกว่าบริษัทของตนตลอดจนสังคมโดยรวมกำลังก้าวไปสู่ความเท่าเทียมทางเพศ แต่อคติทางเพศก็จะยังคงมีอยู่
ส่วนในอนาคตผู้ถูกสำรวจมีความคาดหวังที่สูงมากกับผู้นำหญิงรุ่นต่อไปในธุรกิจครอบครัวของตน โดยผู้ถูกสำรวจหญิงเชื่อว่าผู้หญิงจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำมากขึ้น ในขณะที่ผู้ถูกสำรวจชายคาดหวังว่าเพื่อนร่วมงานผู้ชายของตนจะตระหนักถึงความมีอคตินี้มากขึ้น
จากการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าคนรุ่นใหม่นั้นให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานเพื่ออนาคตแม้ว่าจะมีวิกฤติโควิด-19 อยู่ทั่วโลกก็ตาม ผู้ถูกสำรวจหญิงวางแผนที่จะขยายบริษัท และดำเนินการตามแผนสืบทอดกิจการในอนาคตข้างหน้า
อย่างไรก็ตามอาการคิดว่าตัวเองไม่เก่งก็ไม่ได้หายไปง่ายๆ พวกเขายังรู้สึกว่าจำเป็นต้องพิสูจน์ให้สมาชิกในครอบครัวเห็นว่าบริษัทจะสามารถเติบโตภายใต้การนำของตนได้ ในทางกลับกันผู้ถูกสำรวจชายต่างรอคอยที่จะรับตำแหน่งซีอีโอและมุ่งสร้างทักษะด้านการสื่อสารแบบตัวต่อตัว
ปัจจุบันผู้นำรุ่นใหม่ของธุรกิจครอบครัวมีงานที่ยากและหนักรออยู่ เนื่องจากพวกเขาต้องแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนมากกว่าในอดีต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบริษัทและครอบครัว เช่น เทคโนโลยี การสืบทอดกิจการ ะผลกระทบทางเศรษฐกิจและสุขภาพจากการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก พวกเขาจะต้องรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวและลูกค้าในขณะที่ต้องมีระยะห่างทางสังคมและเรียนรู้ที่จะสำรวจอคติที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิง กลุ่ม LGBTQ และคนกลุ่มน้อยอื่นๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตามแม้จะเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่ผู้นำรุ่นใหม่เหล่านี้จะมีความมุ่งมั่น รู้จักตนเองและพร้อมที่จะรับมือโดยอาศัยค่านิยม อำนาจ ความพยามและจรรยาบรรณในการทำงาน รวมถึงความชัดเจนในการสร้างความสมดุล
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,673 วันที่ 25 - 28 เมษายน พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :