นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจทีวี บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในไตรมาส 1/2564 จะลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่สื่อทีวี ติดลบ 5% มากกว่าภาพรวมอุตสหากรรม แต่ผลงานของช่อง 3 โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจทีวี กลับไม่ลดลง ถือว่าสวนกระแส
โดยพบว่าช่อง 3 ยังมีรายได้เติบโต 3-4% ขณะที่ในไตรมาส 3/2563 และ ไตรมาส 4/2563 รวมถึง ไตรมาส 1/2564 เทิร์นอะราวด์ต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกัน และคาดว่าในไตรมาส 2/2564 จะยังคงขาขึ้น โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจสื่อที่ดีขึ้น รวมถึงรายได้จาก Global Content licensing ซึ่งปัจจุบันมีการขายลิขสิทธิ์ละครในหลายประเทศ โดยมีจีนเป็นตลาดหลัก ตามด้วย ญีปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ
รวมทั้งการปรับตัวเข้าสู่ Digital Transformation ด้วยการเปิดตัว Ch3 Plus Premium เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแห่งอนาคตของบีอีซี เวิลด์ ที่ไม่ใช่ทีวี แต่จะเป็น Leader Content Provider ของประเทศไทย และเป็น Leader Entertainment Company
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของบีอีซี เวิลด์ มาจาก ทีวี 80% ส่วนอีก 20% มาจากคอนเทนซ์และดิจิทัล แพลตฟอร์ม นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการรีไซส์องค์กร ปรับลดพนักงาน เสริมคนรุ่นใหม่เพื่อเดินหน้าธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ รวมทั้งยกเลิกการลงทุนร่วมในบริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ทำให้รายได้จากเรื่องเล่าเช้านี้ กลับมาขึ้นกับบริษัทมากขึ้น
ขณะที่ในปีนี้ คาดว่าสัดส่วนรายได้จะยังคง 80:20 เท่าเดิมแต่จะเติบโตมากขึ้น ทั้งจากรายได้โฆษณาที่เพิ่มขึ้นโดยเดือนเม.ย. พบว่ามีการเติบโตกว่า 30% และการปรับโฉมใหม่ของรายการครอบครัวข่าวที่มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กลับมาเป็น ทำให้ในเดือนพ.ค. มีโฆษณาเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่า 95% ในเรื่องเล่าเช้านี้ ขณะที่คอนเทนต์รายการข่าวอื่นๆ ก็มีเม็ดเงินโฆษณาไหลเข้ามาเช่นกัน
สัดส่วนรายได้ BEC WORLD
ปี 2563 ไตรมาส 1 ปี 2564
ละคร 65% 60%
ข่าว 20% 23%
วาไรตี้ 10% 12%
อื่นๆ 5% 6%
“อนาคตของช่อง 3 คือ การนำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบมัลติแพลตฟอร์ม ทั้งการทำซีรีส์ของตัวเอง ทั้งออริจินัล ซีรีส์ , ลิมิเต็ด ซีรีส์ , สตรีมมิ่งทั้งในไทยและต่างประเทศ , การร่วมทุนผลิต รวมถึงการซื้อลิขสิทธิ์ต่างประเทศเข้ามาผลิตเอง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :