ก้าวไกล ซัดแรง รัฐจัดงบวัคซีนไร้ประสิทธิภาพ

31 พ.ค. 2564 | 06:27 น.

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. พรรคก้าวไกล อัดรัฐบาลไม่ยั้ง เหตุงบจัดสรรยุทโธปกรณ์สูงเกินความจำเป็นแต่งบวัคซีนน้อยไม่เพียงพอต่อสถานการณ์

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันจันทร์ที่ 31 พ.ค. 64 กับการพิจารณา "ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565" วาระรับหลักการ  ว่า  นับตั้งแต่วันที่พบผู้ติดเชื้อโควิดรายแรกจนถึงวันนี้ รัฐบาลมีเวลาเตรียมรับมือกับสถานการณ์โควิดถึง 1 ปี 4 เดือนกับอีก 18 วัน 

แต่ผ่านมาแล้วถึง 2 ปีงบประมาณท้องถิ่นกับเงินกู้ก้อนมหาศาลอีก 1 ล้านล้านบาท ซึ่งมีการกำหนดประมาณเอาไว้สำหรับงานด้านสาธารณสุขถึง 4 หมื่นล้านบาทแต่ไปเบิกจ่ายเพียง 7103 ล้านบาท เงินเหล่านี้ไม่ได้ใช้เพื่อเตรียมความพร้อมของสถานพยาบาล ไม่ได้ใช้กับชีวิตของประชาชนรัฐบาล 

นับตั้งแต่เดือนเมษายนหลังจากการระบาดระลอก 3 เป็นต้นมา ประชาชนตายไปแล้วถึง 877 ราย  หลายคนต้องตายคาบ้าน หลายรายต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงก่อนที่ผลตรวจจะออก ต้องรอคิวตรวจ รอผลตรวจสุดท้ายประชาชนต้องรอความตาย

"งบประมาณปี 2565 จริงๆแล้วประชาชนไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เขาแค่ต้องการเห็นงบที่มีสามัญสำนึก รู้ว่าอะไรควรจ่าย อะไรไม่ควรจ่าย รัฐบาลที่มีสามัญสำนึกเท่านั้นถึงจะสามารถทำงบที่มีสามัญสำนึกออกมาได้แต่ที่ผ่านมาการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลนี้ไม่เคยมีสามัญสำนึก มีแต่รู้ทั้งรู้ก็ยังจะทำ มีแต่เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย จนทำให้ประชาชนเจ็บป่วยล้มตายไปเรื่อยๆ”

การจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในไทยใจที่ถูกที่สุด ทุกคนทราบดีก็คือการป้องกันหรือการฉีดวัคซีนวัคซีนเข็มละ 122 บาทแต่ไม่ยอมฉีดปล่อยให้เกิดการระบาด และไม่เร่งตรวจเชิงรุกทำให้กว่าผลตรวจจะออกและถึงมือหมอ คนไข้ก็มีอาการหนักต้องจ่ายยาฟาวิพิราเวีย ซึ่งผู้ป่วย 1 คนต้องกิน 50 เม็ด เม็ดละ 120 บาท สุดท้ายต้องจ่ายค่ายาอย่างน้อย 6000 บาท วัคซีนราคา 122 - 240 รัฐบาลไม่ยอมจ่าย สุดท้ายประชาชนต้องจ่ายค่าตรวจ 3000 บาท พอผลตรวจออกช้าก็จ่ายยาช้า สุดท้ายต้องเข้าห้อง ICU คืนละ 6,000 บาท

และสิ่งที่รัฐบาลควรเลิกทำคือการสื่อสารในทำนองแดกดันประชาชนที่ต้องการเลือกฉีดวัคซีน เอาเข้าจริง ราคาไฟเซอร์เข็มละ 612 บามต่อให้ฉีดให้กับประชาชนทั้งประเทศ 67 ล้านคนก็ใช้งบประมาณ 8 แสนล้านบาท  แอสตร้าเซเนก้าเองก็ไม่ได้ราคาถูกราคาอยู่ที่ 549 บาทถูกกว่าไฟเซอร์ 51 บาท ซึ่งยังไม่นับกรณีส่วนลดสำหรับประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งราคาจะอยู่ที่ราวๆเข็มละ 372 บาท

 

ในสถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้ทุกคนทราบดีว่าอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ประชาชนอยู่ท่ามกลางความเป็นความตาย แต่เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดโครงการเสริมสร้างจัดหายุทโธปกรณ์ปี 2564 ปรากฏงบอยู่ที่ 3,132 ล้านบาท งบเพิ่มขึ้นมา 1,805 ล้านบาทรวมเป็น 4,937ล้านบาท  

ก้าวไกล ซัดแรง รัฐจัดงบวัคซีนไร้ประสิทธิภาพ

“ถ้ารัฐบาลเห็นแก่ประชาชนงบสำหรับเสริมสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ปีที่แล้วจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดได้มหาศาล ไม่ว่าจะเป็นซื้อวัคซีนไฟเซอร์ได้ถึง 4.4 ล้านโดส ฉีดให้กับประชาชนได้ 2.2 ล้านคน วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 22ล้านโดส ตรวจRT-PCR ได้ 1ล้านคน ซื้อชุด PAPRสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ 300,000แสนชุด และยา Favipiravir 446,000 คน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง