“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”ยืด14วัน ต่างชาติเข้าไทยลดฮวบ 50%

12 มิ.ย. 2564 | 04:07 น.

"ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" อ่วม ศบศ. ยืดเวลาต่างชาติ อยู่ในภูเก็ต 14วัน จาก7วัน แม้ฉีดวัคซีนครบโดส "พิพัฒน์"รมว. กระทรวงท่องเที่ยว ฯ ยัน นักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าไทยลดฮวบ50%   จากเป้าแจ้งเข้ามาเกือบ 30,000 ราย

 

 

 

   มติศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.)  เห็นชอบเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ “วันที่1 กรกฎาคม2564 แต่กลับเปลี่ยนแปลงระยะเวลาให้ชาวต่างชาติ ที่ฉีดวัคซีนครบโดสพักอาศัยอยู่บนเกาะภูเก็ต โดยไม่ต้องกักตัวนานขึ้น14วัน จาก7วันจึงจะออกไปท่องเที่ยวยังจังหวัดอื่นได้ ความสับสนเชิงนโยบายดังกล่าวส่งผลให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เตรียมเข้าไทยในเดือน กรกฎาคมนี้มีจำนวนลดลงทันทีกว่า 50% ขณะเดียวกันยังช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 5สมาคมได้รับอัดฉีดเงินกู้ช่วยสภาพคล่อง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่านโยบายของศบศ.ที่ออกมา ให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยสู่ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จาก 7วันเป็น14วันโดยไม่ต้องกักตัวส่งผลให้ ชาวต่างชาติที่เคยยืนยันว่าจะเดินทางมาภูเก็ต เป้าหมาย 29,700คน หายไป50% อย่างไรก็ตามกระทรวงจะขอใช้เวลา1เดือน ว่าผลในทางปฏิบัติเป็นอย่างไรทั้งการระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลกระทบกระทบจากปริมาณที่ลดลงของต่างชาติ

 

 

“ศบศ. มีมติเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ วันที่ 1 ก.ค.นี้ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยยืดระยะเวลาการอยู่ในจังหวัดภูเก็ต โดยไม่ต้องกักตัวจาก 7 วัน เป็น 14 วัน ถึงจะออกไปจังหวัดอื่นได้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เตรียมเข้ามาในเดือน ก.ค.นี้ลดลงไปครึ่งหนึ่งจากเป้าหมาย 29,700 คน”

 

อย่างไรก็ตาม ภายใน1เดือนไม่มีผลกระทบประสบความสำเร็จ ไม่มีคนติดเชื้อ จะเสนอให้พิจารณาระยะเวลาอยู่ในภูเก็ตเหลือ 7 วัน แล้วออกไปพื้นที่อื่นได้ และจะประกาศให้ทั่วโลกได้เห็นว่าภูเก็ตเป็นพื้นที่สีเขียว ที่คนมาท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้

“ผู้ที่มีผลการตรวจหาเชื้อจากประเทศต้นทางเป็นลบ เมื่อมาถึงภูเก็ตเพื่อท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว ตามมติ ศบศ.จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ (swab) ในวันที่ 0, 6 และ 12 ด้วย และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมประสานหน่วยงานความมั่นคง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว กรมเจ้าท่า คุมเข้มเพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังอยู่ในพื้นที่ไม่ครบ 14 วัน ลักลอบออกจากภูเก็ตไปยังพื้นที่อื่นๆ”

สำหรับปริมาณนักท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)  ระบุว่าเดือน ก.ค.นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตที่ยืนยันมาแล้ว 2 กลุ่ม คือ สหรัฐฯ ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ และปลายเดือน ก.ค. คือกลุ่มทหารเรือจากอังกฤษ ซึ่งเข้ามาในภูมิภาคเพื่อทำการซ้อมรบและมาแวะพักที่ภูเก็ตอีก 400-500 คน ประมาณ 1 สัปดาห์ ขณะที่นักท่องเที่ยวจากยุโรปและทวีปอเมริกาจะมีทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนประเทศในกลุ่มเอเชียใต้ ยังไม่อนุญาตให้เข้ามาในไทย ต้องรอให้สถานการณ์ในประเทศเหล่านี้คลี่คลายลงก่อน

กรณีนักท่องเที่ยวไทย เบื้องต้นต้องฉีดวัคซีนครบก่อน จึงจะสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตได้ โดยซิโนแวค ต้องฉีด 2 โดส แอสตราเซเนกา ฉีด 1 โดส แต่ถ้าใครยังไม่ฉีดจะต้องสวอบเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดก่อนทุกราย

ขณะเดียวกันเรื่องการช่วยเหลือสภาพคล่องภาคเอกชน นายพิพัฒน์กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับ 5 สมาคม ประกอบด้วย 1.สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว 2.สมาคมโรงแรมไทย 3.สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ 4.สมาคมสปาไทย 5.สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย ได้ข้อสรุปว่าจะนำทั้ง 5 สมาคมเข้าพบนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เพื่อขอให้พิจารณานำเงินกู้ 10,000 ล้านบาท จากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของ  เชื้อ ไว้รัสโควิด-19  วงเงิน 500,000 ล้านบาท มาตั้งเป็นกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาท่องเที่ยวโดยให้กู้ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ และให้ผู้ประกอบธุรกิจค้ำไขว้กัน เพราะถ้ามีสินทรัพย์ปกติ ก็คงไม่มาเข้าช่องทางนี้

ขณะที่ข้อเสนอช่วยค่าจ้างพนักงาน เพื่อรักษาการจ้างงานและช่วยสภาพคล่อง โดยขอสนับสนุน 50% ของค่าจ้างพนักงาน หรือไม่เกินเดือนละ 7,500 บาท ได้ขอให้ 5 สมาคมไปหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งได้หารือกับคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ ที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธาน โดยได้หารือกันในเรื่องนี้แล้วว่าจะใช้เงินกู้โควิดก้อนใหม่มาดำเนินการ ส่วนการนำเงินกองทุนประกันสังคมมาใช้ในกรณีนี้ต้องใช้กับผู้ประกอบการที่ปิดกิจการชั่วคราว จากผลกระทบของโควิด-19 เท่านั้น.