เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2563 คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม เห็นชอบในหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี2563/2564 เพื่อช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรชาวนา ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 63 - 31 พ.ค. 64
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผย ผลการประชุม เปิดเผยว่า ที่ประชุมนบข. ให้ใช้แนวทางการดำเนินการเหมือนปีที่ผ่านมา และให้อนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดกฎเกณฑ์กลางราคาอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวไปพิจารณาราคาประกันรายได้ต่อครัวเรือน และนำกลับมาเสนอคณะกรรมการนบข.อีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้การดูแลชาวนาสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตอย่างแท้จริง
โดยมีมาตรการคู่ขนาน 3 มาตรการ วงเงิน 9.191 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย
1.มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2563/64 ผ่าน 3 โครงการ ดังนี้
2. โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว อัตราสนับสนุน ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ วงเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท
3. โครงการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก และโครงการยกระดับคุณภาพและต่อยอดด้านการตลาดข้าวหอมมะลิของประเทศไทย
ทั้ง 3 โครงการนี้ คาดว่า จะสามารถดูดซับอุปทานในช่วงที่ข้าวเปลือกออกมาสู่ตลาดมาก โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 7 ล้านตันข้าวเปลือก
สำหรับสถานการณ์การส่งออกของไทยนั้น คู่แข่งที่สำคัญของไทย คือ เวียดนาม และอินเดียที่มีราคาข้าวต่ำกว่าของไทย นอกจากนี้ นบข. ยังได้เห็นชอบในหลักการโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรให้มีกำลังใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว โดยช่วยชาวนาที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ (ครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท)
"พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำเรื่องการพัฒนาพันธุ์ข้าวไทย เพราะเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิต โดยกำชับให้กรมการข้าว หน่วยงานวิจัยภาครัฐและเอกชน รวมถึงเครือข่ายเกษตรกรร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพข้าวและการใช้พันธุ์ข้าวที่ได้รับการรับรองให้ได้อย่างกว้างขวาง”