สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐเวียดนาม รายงานโดยอ้างข้อมูลจาก VIET NAM NEWS ว่า เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 สุกรมีชีวิต 500 ตัวแรกจากประเทศไทยได้ไปถึงด่านชายแดนลาวบ๋าวในจังหวัดกว๋างจิ ของเวียดนามแล้ว
ตามรายงานของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท (MARD) ระบุว่าสุกรมีชีวิตจะผ่านขั้นตอนการกักกันในจังหวัดเหงะอาน โดยบริษัท Thanh Do Limited เป็นผู้นำเข้าสุกรมีชีวิตชึ่งมีน้ำหนัก 90 - 130 กิโลกรัมต่อตัว
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท ได้อนุญาตให้นำเข้าสุกรมีชีวิตจากประเทศไทยเพื่อเลี้ยงและชำแหละเป็นครั้งแรกเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสุกรที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดภายในประเทศ
จากรายงานของกรมสุขภาพสัตว์ระบุว่ามีบริษัท 8 รายได้รับอนุญาตให้นำเข้าได้โดยคาดว่าจะมีการนำเข้าสุกรมากกว่า 1.9 ล้านตัว อย่างไรก็ดีบริษัทส่งออกสุกรมีชีวิตจากประเทศไทยไปยังเวียดนามจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้มั่นใจในด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาหาร เช่น การขนส่งโดยยานพาหนะพิเศษและผ่านการฆ่าเชื้อ
ขณะที่ผู้นำเข้าจะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการกักกันและต้องตรวจสอบสุขอนามัยของสัตว์โดยหน่วยงานสัตวแพทย์
เมื่อเดือนที่แล้ว เวียดนามนำเข้าสุกรแม่พันธุ์จากประเทศไทยเพื่อนำไปผลิตลูกพันธุ์ที่มีคุณภาพดีและลดราคาสุกรสดในตลาด ในประเทศ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2563 ได้นำเข้าสุกรแม่พันธุ์ 2,000 ตัวจากประเทศไทย เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 300 เมื่อเทียบ กับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
นาย Nguyen Xuan Cuong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท ได้กล่าวว่า การนำเข้าเป็นเพียงทางออกเดียวในการลดราคาสุกร จากรายงานของท้องถิ่นพบว่า สุกรทั้งหมดของประเทศมีจำนวนเกือบ 24.9 ล้านตัวก่อนมีโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร(ASF)
นาย Cuong ได้กล่าวเพิ่มว่า คาดการณ์ว่าภายในสิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 อุปทานโดยทั่วไปจะตอบสนองความต้องการ บริโภคสุกรสดในประเทศ ปัจจุบันสุกรมีชีวิตมีราคาลดลงอยู่ที่ 82,000 ด่อง ( 3.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ) ถึง 90,000ด่อง ต่อกิโลกรัม และคาดว่าจะลดลงอีกในอนาคต จากสัปดาห์ที่แล้ว าคาอยู่ระหว่าง 85,000 ด่อง ถึง 94,000 ด่องต่อกิโลกรัม ขณะที่สองสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาสูงถึง 103,000 ด่อง ต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 เวียดนามนำเข้าเนื้อหมูประมาณ 67,638 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 298 เมื่อเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนใหญ่มาจาก แคนาดา เยอรมนี โปแลนด์ บราซิล สหรัฐอเมริกา สเปน และรัสเซีย