นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธพว. เตรียมเปิดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ยื่นขอสินเชื่อภายใต้โครงการ “SMEs One” ซึ่งธนาคารได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในระยะที่ 2 ประมาณวันที่ 10 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป โดยจะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการช่วยเหลือไปสู่การมุ่งเน้นช่วยเอสเอ็มอีขนาดเล็ก หรือไมโครเอสเอ็มอี (รายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท) เป็นหลัก เพื่อให้สามารถกระจายเม็ดเงินช่วยเหลือไปยังกลุ่มเอสเอ็มอีได้มากขึ้น
นารถนารี รัฐปัตย์
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนวงเงินสินเชื่อที่จะให้เอสเอ็มอีแต่ละรายทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลมาอยู่ที่ไม่เกิน 5 แสนบาทต่อราย โดยคิดอัตราดอกเบี้ยที่ 1% ต่อปีเท่าเดิม และมีระยะเวลาในการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี คาดจะช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ประมาณ 3,000 ราย โดยมีวงเงินโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท
สำหรับวงเงิน 1,500 ล้านบาทดังกล่าว เป็นวงเงินที่ถูกจัดสรรมาจากวงเงินเดิมของโครงการที่ 4,890 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดให้เอสเอ็มอียื่นขอสินเชื่อไปแล้วรอบแรก และมีเอสเอ็มอียื่นความประสงค์เข้ามาเป็นจำนวนมากจนต้องปิดโครงการชั่วคราวเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมา แต่เมื่อมีการจัดสรรวงเงินให้กับเอสเอ็มอีที่ยื่นขอเข้ามาจนเต็มวงเงินเรียบร้อยปรากฎว่ายังพอมีเงินเหลือ และมาเปิดโครงการอีกครั้งดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลังจากนี้จะสั่งการไปยังสาขาของ ธพว. ทั้งหมดให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อให้เอสเอ็มอีที่เข้าเงื่อนไขได้มีระยะเวลาในการเตรียมตัวเรื่องการเตรียมเอกสาร หลักฐานต่างๆ ในการขอสินเชื่อให้เรียบร้อย และนำมายื่นขอสินเชื่อได้ทันทีที่เปิดโครงการ
“โครงการดังกล่าวเป็นการเปิดยื่นขอในรูปแบบมาก่อนได้ก่อน (first come first serve) ไปจนกว่าจะเต็มวงเงิน เพื่อให้เอสเอ็มอีนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยายกิจกรรม ปรับปรุง ซ่อมแซม หรือยกระดับการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
นางสาวนารถนารี กล่าวต่ออีกว่า ผู้ขอสินเชื่อจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ สสว. โดยกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดาต้องมีสัญชาติไทย และจดทะเบียนพาณิชย์หรือจดทะเบียนหรือได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากเป็นการประกอบธุรกิจที่มีกฎหมายเฉพาะกำหนดไว้ โดยอายุของผู้ขอกู้รวมกับระยะเวลาสินเชื่อแล้วจะต้องไม่เกิน 65 ปี เป็นต้น
หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,597 วันที่ 2 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563