นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาไข่ไก่ในปัจจุบัน ว่า ไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกรขณะนี้ราคาลดลง ตามประกาศของสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ ปรับตัวลงจากฟองละ 2.90 บาท เป็น ฟองละ 2.70 บาท ขณะที่ราคาขายจริงของเกษตรกรลดลงไปอยู่ที่ 2.40 บาทต่อฟองเท่านั้น(ขาดทุน 30 สต./ฟอง) เนื่องจากการบริโภคและการจับจ่ายที่ลดลงจากภาวะฝนตกชุก ประกอบอาหารธรรมชาติออกผลผลิตตามฤดูกาลออกมาขึ้น
ขณะที่เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบสำคัญทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยกากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าราคาปรับเพิ่มขึ้น จากกิโลกรัมละ 13.75 บาทในสัปดาห์ก่อน เป็นกิโลกรัมละ 15.55 บาทในปัจจุบัน เป็นราคาที่ปรับเพิ่มถึง 1.80 บาท หรือเพิ่มขึ้น 13.09% เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศผู้ผลิตสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา ยังคงได้รับผลกระทบสภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้คาดการณ์ผลผลิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณซื้อโดยเฉพาะจากจีนยังคงมีสูง ทำให้ราคาขายปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนราคาซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ของไทย จากราคากิโลกรัมละ 9.25 บาทเมื่อสัปดาห์ก่อน เพิ่มเป็น 9.65 บาทในปัจจุบัน หรือปรับเพิ่มขึ้นถึง 4.32% เนื่องจากมีพายุเข้าทำให้เกิดภาวะฝนตกอีกระลอก ทำให้คุณภาพข้าวโพดเริ่มเสียหาย และการเก็บเกี่ยวผลผลิตลดลง ส่งผลให้ราคาในช่วงนี้ผันผวน คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
“ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้จริงที่ 2.40 บาทต่อฟองนั้น สวนทางกับต้นทุนการผลิตไข่ไก่ไตรมาส 3/2563 ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรคาดการณ์ว่าอยู่ที่ฟองละ 2.54 บาท สำหรับฟาร์มที่เลี้ยงไก่ในโรงเรือนแบบปิด หรืออีแวป ขณะที่เกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงไก่ในโรงเรือนแบบเปิดนั้นจะมีต้นทุนการเลี้ยงที่สูงกว่านี้ เท่ากับเกษตรกรต้องแบกรับภาระขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมานานกว่า 1 เดือนแล้ว จึงอยากขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ ขอให้รัฐเดินหน้ากิจกรรม PS Support ผลักดันส่งออกไข่ไก่ส่วนเกินไปตลาดต่างประเทศ และเกษตรกรผู้เลี้ยงก็ต้องให้ความร่วมมือช่วยแก้ไขด้วยการปลดแม่ไก่แก่ยืนกรงตามกำหนดของภาครัฐ เพื่อไม่ให้ผู้เลี้ยงทั้งประเทศประสบภาวะขาดทุนจนต้องเลิกอาชีพ ซึ่งจะกระทบกับอุตสาหกรรมการผลิตไข่ไก่ในภาพรวม” นายมงคล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง