ตรวจแถวส่งออก Q4 “ข้าว-สิ่งทอ” ร่วง “ยาง-มัน”ยอดพุ่ง

 

ส่งออกไทยได้เดินมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกที่ยังไม่นิ่ง กระทบเศรษฐกิจ การค้า กำลังซื้อผู้บริโภคทั่วโลกหดตัวทุกตลาด ตัวเลขส่งออกไทยช่วง 7 เดือนแรกปี 2563 ยังติดลบถึง 7.7% และทั้งปีนี้ทุกสำนักต่างฟันธงส่งออกไทยจะติดลบตัวเลขสองหลัก อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบหลายสินค้าที่มีความจำเป็นและมีความเชื่อมโยงกับสถานการณ์โควิด-19 ได้รับอานิสงส์ มีคำสั่งซื้อเพื่อส่งมอบในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ทูน่ากระป๋อง ถุงมือยาง ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น

 

นายอมรพันธุ์ อร่ามวัฒนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มซีแวลู ผู้ผลิตและส่งออกทูน่ากระป๋องรายใหญ่ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากอานิสงส์โควิด-19 ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามายังบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ของปีนี้ จากเป็นสินค้าจำเป็นและเก็บตุนไว้บริโภคได้ช่วงโควิด ขณะคำสั่งซื้อเพื่อส่งมอบในไตรมาสที่ 4 ยังมีเข้ามาแต่ลดลงจากจากไตรมาส 2-3 อย่างไรก็ตามคาดสิ้นปีนี้ทางกลุ่มจะทำยอดขายได้ถึง 2.6 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายวางไว้ 2.5 หมื่นล้านบาท ถือเป็นนิวไฮยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

นายหลักชัย กิตติพล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยางพาราไทย กล่าวว่า คำสั่งซื้อวัตถุดิบยางพาราทั้งน้ำยางข้นเพื่อนำไปผลิตถุงมือยาง ยางแท่ง ยางแผ่น เพื่อนำไปผลิตยางล้อรถยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากต่างประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งจากจีน มาเลเซีย เวียดนามมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และผลจากผลผลิตยางพาราในประเทศมีน้อยจากแรงงานเมียนมา และกัมพูชาเดินกลับประเทศ ส่งผลให้ราคายางทั้งในและต่างประเทศเวลานี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาน้ำยางสด ณ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 48 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ยางแผ่นดิบ 51 บาทต่อกก.และยางแผ่นรมควัน 58 บาทต่อกก.ส่วนราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ส่งออก (เอฟโอบี) อยู่ที่ 62 บาทต่อกก.

 

 

“คำสั่งซื้อยางพาราเวลานี้มีเข้ามาจำนวนมาก คาดถึงสิ้นปีนี้ไทยจะสามารถส่งออกยางพาราได้ไม่ต่ำกว่า 3.8 ล้านตัน มูลค่าราว 1.8 แสนล้านบาท แง่มูลค่าจะใกล้เคียงกับปี 2562 แต่แง่ปริมาณจะลดลงจากปีแล้วส่งออกได้ 4.1 ล้านตัน เพราะผลผลิตลดลง”

 

นายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทยกล่าวว่า ขณะนี้มีคำสั่งซื้อมันเส้นจากตลาดใหญ่สุดคือจีนเพื่อนำไปผลิตแอลกอฮอล์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่น่าเสียดายที่ลานมัน(ผู้ประกอบการมันเส้น) ไม่มีสินค้าตอบสนองความต้องการ จากผลผลิตหัวมันในประเทศมีน้อยกระทบจากภัยแล้งและโรคใบด่างในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับเวลานี้มีฝนตกชุกลานมันเปิดดำเนินการน้อย ทั้งนี้คาดการณ์ส่งออกมันเส้นฤดูการผลิต 2562/2563 (ต.ค.62-ก.ย.63) จะทำได้ที่ประมาณ 3 ล้านตัน และแป้งมันที่ 4 ล้านตัน (จากปี 2562 ไทยส่งออกมันเส้น 2.4 ล้านตัน และแป้งมันสำปะหลัง 2.8 ล้านตัน)

 

สวนทางกับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม และข้าวที่ผู้ประกอบการระบุคำสั่งซื้อส่งมอบไตรมาส 4 ยังค่อนข้างเงียบ โดยนายกิตติศักดิ์ อุดมแดงอร่าม รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ลูกค้าที่สั่งซื้อมีเพียงกลุ่มที่นำไปจำหน่ายผ่านออนไลน์ แต่ในกลุ่มค้าปลีกกลุ่มใหญ่ยังเงียบ คาดหวังทั้งปีนี้การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ(ไม่รวมทองคำ)จะติดลบที่ประมาณ 15% จากช่วง 7 เดือนแรกติดลบ 43% ตัวแปรหลักคือสถานการณ์โควิดในตลาดสำคัญคือสหรัฐฯ สหภาพยุโรป อินเดีย และรัสเซีย จะคลี่คลายในเร็ววันเมื่อใด

 

นายสุกิจ คงปิยาจารย์ กรรมการผู้จัดการฮงเส็งกรุ๊ป ผู้ผลิตและส่งออกเสื้อผ้ากีฬาแบรนด์ดัง กล่าวว่าคำสั่งซื้อเสื้อผ้าส่งมอบไตรมาส 4 ดีขึ้นแต่ไม่ดีเท่าทุกปีที่ผ่านมา จากอีเวนต์แข่งขันกีฬายังจำกัดจำนวนผู้ชม คาดสิ้นปีนี้ยอดขายของทางกลุ่มจะต่ำสุดตั้งแต่เปิดดำเนินการมานานกว่า 30 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อหันมาทำตลาดเสื้อผ้ากีฬาและหน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าในประเทศ

 

 

ขณะที่นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า คำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศยังค่อนข้างเงียบมาก ทั้งจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย ญี่ปุ่น เพราะราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่ง และไม่มีพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ให้เลือก คงต้องรอลุ้นหรือรอปาฏิหาริย์ช่วงก่อนสิ้นปีว่าจะมีคำสั่งจากตลาดใดเข้ามาบ้าง คาดปีนี้ไทยจะส่งออกข้าวได้ที่ประมาณ 6 ล้านตัน ต่ำสุดรอบ 20 ปี

 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3612 วันที่ 24-26 กันยายน พ.ศ. 2563 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

“พาณิชย์” มั่นใจทั้งปีติดลบแค่8%

ชี้ส่งออกไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว  ลุ้นทั้งปี -9% ผวาโควิดทุบรอบสอง